![ไมเดีย รีฟริจเจอเรชั่น อีควิปเมนท์ (ไทยแลนด์) ซื้อที่ดิน 130 ไร่ จากเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เดินหน้าพัฒนาศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีอัจฉริยะในพื้นที่อีอีซีของไทย]()
กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--Five W&H
ไมเดีย รีฟริจเจอเรชั่น อีควิปเมนท์ (ไทยแลนด์) บริษัทย่อยของไมเดีย กรุ๊ป บรรลุข้อตกลงใน
สัญญาซื้อขายที่ดินจำนวน 130 ไร่ ใน
จังหวัดชลบุรี จาก
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ "FPT" โดยที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ที่เอื้อประโยชน์ต่อด้าน
อุตสาหกรรมและการผลิต อีกทั้งยังตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี
ไมเดีย รีฟริจเจอเรชั่น อีควิปเมนท์ (ไทยแลนด์) บริษัทย่อยของไมเดีย กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติจีน ได้บรรลุข้อตกลงในการซื้อขายที่ดินจำนวน 130 ไร่ ใน
จังหวัดชลบุรี จาก บริษัท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ "FPT" ผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร โดยที่ดินดังกล่าว ไมเดีย กรุ๊ป จะพัฒนาให้เป็นฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและถือเป็นศูนย์กลางการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดของ ไมเดีย กรุ๊ป ที่ตั้งอยู่นอกประเทศจีน
นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของไมเดียที่มีต่อเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทยที่แข็งแกร่งของ FPT ตลอดจนความสามารถและความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และที่ดิน โดยที่ดินแห่งนี้ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ที่ใกล้กับกลุ่ม
อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง ท่าเรือน้ำลึก และโครงการโลจิสติกส์ พาร์คของกลุ่ม FPT
บริษัทฯ มีความยินดีที่ได้มีส่วนสนับสนุนให้ไมเดีย ได้ย้ายฐานการผลิตเข้ามาตั้งศูนย์กลางการผลิตที่จะมีการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตทางเศษฐกิจและ
อุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ FPT ยังมีที่ดินพร้อมพัฒนาอีกกว่า 300 ไร่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับโครงการดังกล่าว ซึ่งจะมีแผนในการพัฒนาอาคารโรงงานและคลังสินค้าเพิ่มเติมในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการพื้นที่อาคาร
อุตสาหกรรมของผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่คาดว่าจะเข้ามาลงทุนเพิ่มสูงขึ้น ภายหลังจากการตัดสินใจย้ายฐานการผลิตของ ไมเดีย มายังประเทศไทยในครั้งนี้ FPT คาดหวังว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและ
อุตสาหกรรมให้แก่พื้นที่เขตอีอีซี และร่วมสนับสนุนความมุ่งมั่นของไทยในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาค
อุตสาหกรรม
FPT ในฐานะผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการ
อุตสาหกรรมในประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ เราไม่เพียงแต่พัฒนาความสามารถและความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาที่คำนึงความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ครอบคลุมตอบสนองทุกความต้องการที่หลากหลายของผู้ประกอบการในทุกกลุ่ม
อุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี" นายโสภณกล่าวสรุป