MJD ยิ้มรับมาตรการกระตุ้น ศก. เชื่อแพ็คเกจอสังหาฯ ดันกำลังซื้อคึกคัก

ข่าวอสังหา Wednesday March 5, 2008 14:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
ผู้บริหาร MJD มั่นใจ มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนอง เหลือ 0.01% ของรัฐบาล ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมาคึกคัก ทั้งเร่งการตัดสินใจซื้อบ้านให้เร็วขึ้น ขณะที่ภาคการผลิตทุกส่วนฟื้นตัวขึ้นได้ อาทิ ธุรกิจรับเหมา ก่อสร้าง แรงงาน และภาควัสดุก่อสร้าง เชื่อเกิดการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคตามมา ชี้แบงก์ชาติยกเลิกมาตรการสำรอง 30% ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย ส่งผลนักลงทุนต่างประเทศเชื่อมั่นมากขึ้น
นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ เปิดเผยว่า เชื่อว่า หลังจากที่รัฐบาลนำมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาใช้ ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอน จาก 2% และค่าจดทะเบียนจำนองจาก 1% ให้เหลือ 0.01% สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท จะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวม ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวขึ้น ก็จะผลักดันให้ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องดีขึ้นตามไปด้วย ตั้งแต่วัสดุก่อสร้าง เหล็ก รวมไปถึงแรงงานในธุรกิจก่อสร้าง
“โดยภาพรวมแล้ว เชื่อว่า มาตรการดังกล่าว จะทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์คึกคักมากขึ้นและจะเห็นผลชัดเจนกว่าการกระตุ้นส่วนอื่น ซึ่งมาตรการในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ รัฐบาลก่อนหน้านี้เคยใช้มาแล้วและได้ผลในระดับหนึ่ง เพราะจะส่งผลดีต่อลูกค้า และผู้ประกอบการ เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการลดค่าใช้จ่ายโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาค่าธรรมเนียมการโอนจะแบ่งจ่ายกันคนละครึ่ง ระหว่างผู้ซื้อ กับเจ้าของโครงการ” นายสุริยน กล่าว
ส่วนการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MJD กล่าวสนับสนุนว่า เป็นการกระทำที่ถูกต้อง และอยู่ในเวลาที่เหมาะสม โดยมองว่าจะส่งผลบวกทางด้านจิตวิทยา ทำให้นักลงทุนในต่างประเทศมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และอาจกลับเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น
ในขณะที่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ แนะ"overweight" หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยมองว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ของรัฐบาล
ในส่วนของ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ มีโครงการที่เตรียมโอนเพิ่มเติมอีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการแมนฮัตตัน ชิดลม, โครงการวอเตอร์มาร์ค ทาวเวอร์ เอ และ ทาวเวอร์ บี ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 8.3 พันล้านบาท
นายสุริยน กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้จากการทยอยรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียมประมาณ 6-7 โครงการ โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ปีนี้ 3 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้นเกือบ 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ มีโครงการคอนโดมิเนียมระดับหรูที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทั้งหมด 8 โครงการ มูลค่ารวม 13,800 ล้านบาท ประกอบด้วย ฟูลเลอตัน สุขุมวิท, วอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยาริเวอร์ ทาวเวอร์เอ, วอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยาริเวอร์ ทาวเวอร์บี, แมนฮัตตัน ชิดลม
วินด์ สุขุมวิท 23, วินด์ รัชโยธิน, อกัสตัน สุขุมวิท 22 และมิคโคนอส หัวหิน โดยแต่ละโครงการสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่เป็นนักธุรกิจ คนทำงานรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตอิสระ ท่ามกลางแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน แบบ Lifestyle Community ซึ่งบริษัทฯ ยังคงเน้นจุดเด่นที่คุณภาพระดับพรีเมี่ยมและความเป็นมืออาชีพ
บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของคนไทยที่มุ่งเน้นพัฒนาที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย ประเภทคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ โดยเน้นพัฒนาโครงการที่มีจุดขายที่แตกต่างและชัดเจน มุ่งเน้นการนำเสนอนวัตกรรมและแนวคิดใหม่ๆ ในการเพิ่มคุณค่าของโครงการ เพื่อประโยชน์สูงสุดกับผู้พักอาศัย และได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับบนเสมอมา โดยยังคงเน้นที่คุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่เป็นจุดเด่นและความเป็นมืออาชีพของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ในนามบริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ: คุณวารุณี คำไชย (แนน)
โทร: 0-2643-1191 ต่อ 23 หรือ 08-1496-6762
e-mail : c_mastermind@hotmail.com,sun_manee@yahoo.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ