กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--วิเคราะห์ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์
นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวตามที่คอลัมนิสต์ เสนอบทความ ระบุปัจจุบันขยะอิเล็กทรอนิกส์ มีจำนวนเพิ่มขึ้น ทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งไม่สามารถย่อยสลายเองได้ ต้องมีวิธีกำจัดอย่างถูกวิธีว่า กทม. ได้กำหนดนโยบายการจัดเก็บมูลฝอยอันตรายจากชุมชน ซึ่งรวมถึงขยะอิเล็กทรอนิกส์ทุกวันอาทิตย์หรือตามวัน เวลา และสถานที่ที่สำนักงานเขตนัดหมาย โดยประชาสัมพันธ์การหมุนเวียนเข้าจัดเก็บตามชุมชนต่าง ๆ ให้ประชาชนรับทราบล่วงหน้า ด้วยการแจกประกาศสำนักงานเขต แผ่นพับ เสียงตามสายในชุมชน หรือทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และจัดรถเก็บขนแยกเป็นการเฉพาะ พร้อมติดป้ายประชาสัมพันธ์ที่ตัวรถ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแยกทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์กับรถเก็บขนมูลฝอยทั่วไป ซึ่งมีถังรองรับตั้งอยู่บริเวณช่องด้านหลังพนักงานขับรถหรือสามารถทิ้งในจุดรวบรวมมูลฝอยอันตรายของชุมชน โดยสำนักงานเขตจะรวบรวมไปยังอาคารเก็บกักมูลฝอยอันตรายเฉพาะ ซึ่งตั้งอยู่ในสถานีขนถ่ายมูลฝอยของ กทม. ประกอบด้วย ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช หนองแขม และสายไหม ก่อนนำไปกำจัดด้วยวิธีการที่ถูกสุขลักษณะ
ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้น ยังร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ ดำเนินโครงการรับคืนซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยสามารถรวบรวมปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์จากประชาชนในพื้นที่ 50 สำนักงานเขต ได้ทั้งสิ้น 2,548 กิโลกรัม ซึ่งกรมควบคุมมลพิษจะนำไปรีไซเคิลและกำจัดตามหลักสุขาภิบาลต่อไป ขณะเดียวกันได้สร้างความรู้ความเข้าใจในการแยกทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี รวมถึงลงพื้นที่จัดกิจกรรม สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในชุมชน สถานศึกษา สถานประกอบการ สถานที่ราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ ตลอดจนจัดอบรมเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ถึงพิษภัยจากสารเคมีในขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้กับพนักงานเก็บขนมูลฝอยของ กทม. อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การคัดแยกและเก็บรวบรวมขยะเป็นไปอย่างถูกต้องปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม