กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--มหาวิทยาลัยพะเยา
นิสิตและบุคลากรมหาวิทยาลัยพะเยา สวมหน้ากากอนามัยในการป้องกันฝุ่นควัน หลังสถานการณ์ฝุ่นควันเริ่มกลับมาอีกครั้ง สภาพทั่วไปของบรรยากาศบริเวณมหาวิทยาลัยพะเยาล่าสุดยังมีฝุ่นควัน ปกคลุมอยู่เล็กน้อย ในสัปดาห์นี้ ปริมาณฝุ่นในจังหวัดพะเยา มีค่า PM 2.5 อยู่ที่ 56.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ค่า PM 10 อยู่ที่ 78 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่า AQI อยู่ที่ 151 ซึ่งถือว่าเป็นค่าที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นอีก ดร.ธนาทิพย์ จันทร์คง รองคณบดีฝ่ายนิสิตและนวัตกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา กล่าวว่า "เราไม่สามารถทำให้พื้นที่โล่งสะอาดได้ แต่จะต้องเลือกพื้นที่หรือห้องที่ปลอดภัยจากฝุ่น การจัดการพื้นที่มีหลักการคือถ้าข้างนอกมีปริมาณฝุ่นเยอะ เราต้องพยายามไม่ให้ฝุ่นเข้ามาในห้อง จึงทำการทดลองต้นแบบโดยการติดเซนเซอร์เพื่อใช้ในพื้นที่ วัดค่าปริมาณฝุ่นภายในห้องเทียบกับข้างนอกห้อง ช่วยบริหารจัดการพื้นที่ลดฝุ่น และทำเครื่องกรองอากาศเพื่อที่จะทำให้อากาศภายในห้องสะอาดขึ้น โดยเริ่มที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ม.พะเยาก่อน จากนั้นจะไปทดลองทำที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในชุมชน ถ้าได้ต้นแบบแล้วจะนำเสนอให้ทางหอการค้าเพื่อที่จะได้ช่วยผลักดันในกลุ่มของหอการค้าและกลุ่มของอำเภอด้วยและจะนำประยุกต์ใช้ภายในมหาวิทยาลัยต่อไป ส่วนเรื่องการรณรงค์ภายในมหาวิทยาลัยนั้นอยากจะเชิญชวนนิสิต อาจารย์ และบุคลากรมาระดมความคิดเรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน และโน้มน้าวใจด้วยการแจกหน้ากากอนามัยเพราะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการป้องกันฝุ่นควัน" ปัญหาฝุ่นควันมักจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อย่างเช่น มีอาการคัดจมูก แสบจมูกและลำคอ มีอาการแสบหรือคันตา ตาแดง น้ำตาไหล และมองภาพไม่ค่อยชัด เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพใจและกายของนิสิตและบุคลากรของมหาวิทยาลัยพะเยา จึงต้องลดกิจกรรมกลางแจ้งและลดใช้พื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อหมอกควันและฝุ่นละออง สวมหน้ากากอนามัย คอยตรวจสอบคุณภาพของอากาศจากแอพพลิเคชั่น AirVisual ว่าอยู่ในระดับใด อย่างน้อยจะได้ป้องกันตนเองจากมลพิษให้มากที่สุด และร่วมสื่อสารรณรงค์ให้ตระหนักถึงปัญหาฝุ่นควัน