กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--การประปาส่วนภูมิภาค
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จัดโครงการเดินรณรงค์ "ประหยัดน้ำ สู้วิกฤตภัยแล้ง" ขอความร่วมมือประชาชนและทุกภาคส่วนร่วมใจประหยัดน้ำเพื่อฝ่าวิกฤตภัยแล้ง แนะวิธีการใช้น้ำประปาอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ตลอดจนขั้นตอนการตรวจสอบระบบประปาภายในบ้านมิให้รั่วไหลและเกิดน้ำสูญเสีย เปลี่ยนความร่วมมือร่วมใจให้กลายเป็นพลังความสามัคคี เพื่อให้ทุกพื้นที่ผ่านพ้นวิกฤตภัยแล้งนี้ไปให้ได้ โดยมี นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และ ดร.นพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้ว่าการ กปภ. ร่วมเปิดงานและปล่อยขบวนเดินรณรงค์ ในวันพุธที่ 22 มกราคม 2563 เวลา 08.30 น. ณ หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา
ดร.นพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ ภัยแล้งในปีนี้ ส่งผลกระทบอย่างรวดเร็วในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ ตามรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 18 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงราย น่าน เพชรบูรณ์ อุทัยธานี นครพนม มหาสารคาม บึงกาฬ หนองคาย บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ นครราชสีมา กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา สุโขทัย ชัยนาท อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ และสุพรรณบุรี ส่งผลให้ขณะนี้ประชาชน ในหลายพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนตระหนัก ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น การประปาส่วนภูมิภาคเขต 1 และการประปาส่วนภูมิภาคสาขาฉะเชิงเทรา บางคล้า บางปะกง และพนมสารคาม ซึ่งเป็น กปภ.สาขาในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับจังหวัดฉะเชิงเทรา จัดโครงการเดินรณรงค์ "ประหยัดน้ำ สู้วิกฤตภัยแล้ง" ในวันพุธที่ 22 มกราคม 2563 เวลา 08.30 น. ณ หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเริ่มปล่อยขบวนเดินรณรงค์ประหยัดน้ำผ่านบ้านเรือน ชุมชนและสถานที่ราชการ พร้อมแจกเอกสารและแผ่นพับแนวทางการใช้น้ำประปาอย่างรู้คุณค่าที่สามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ แต่สามารถช่วย ลดปริมาณการใช้น้ำประปาได้อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนแนะนำขั้นตอนการตรวจสอบระบบประปาภายในบ้าน มิให้รั่วไหล เพื่อกระตุ้นพฤติกรรมการประหยัดน้ำ ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือประหยัดน้ำจากประชาชนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่อีกด้วย
นายสุรชัย เชื้อแพ่ง ผู้อำนวยการการประปาส่วนภูมิภาคเขต ๑ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมเดินรณรงค์"ประหยัดน้ำ สู้วิกฤตภัยแล้ง" จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเปลี่ยนความร่วมมือร่วมใจจากประชาชนให้กลายเป็นพลังความสามัคคี ร่วมกันใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าและฝ่าวิกฤตแล้งในปีนี้ไปให้ได้