กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
เทศกาลตรุษจีนตามธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติมักมีการประกอบอาหาร การจุดธูปเทียนบูชาเทพเจ้าและบรรพบุรุษ การเผากระดาษเงินกระดาษทอง การจุดประทัด รวมถึงการท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายสูงกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะ การป้องกันอุบัติภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน ดังนี้
อัคคีภัย
- ปิดเตาแก๊สและวาล์วถังก๊าซทุกครั้งหลังการใช้งาน และไม่อุ่นอาหารทิ้งไว้โดยไม่มีผู้ดูแล
- ใช้เชิงเทียนและกระถางธูปที่ทำจากวัสดุทนไฟ ห้ามจุดธูปเทียนทิ้งไว้โดยไม่มีผู้ดูแล รวมถึงดับไฟให้สนิททุกครั้ง
- เผากระดาษเงินกระดาษทองในภาชนะทนไฟ ห่างจากแหล่งเชื้อเพลิงและวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมเตรียมถังน้ำไว้ใกล้ๆ หากไฟลุกลามจะได้ควบคุมเพลิงทันท่วงที
- ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะโคมไฟประดับและไฟกะพริบบริเวณศาลเจ้าที่จีน (ตี่จู้เอี๊ยะ) รวมถึงปิดสวิตช์ไฟและถอดปลั๊กไฟหลังใช้งานหรือก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจร
อุบัติภัยจากประทัด
- ไม่จุดประทัดในพื้นที่เสี่ยงเพลิงไหม้ โดยเฉพาะบริเวณบ้านเรือน แนวสายไฟฟ้า สถานีบริการน้ำมัน ควรจุด ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันการเกิดระเบิดและเพลิงไหม้
- ไม่จุดประทัดในลักษณะเสี่ยงอันตราย โดยไม่โยนประทัดที่จุดไฟแล้วใส่กลุ่มคน ไม่ดัดแปลงประทัดให้มีแรงอัดสูงหรือเสียงดังผิดปกติ รวมถึงไม่ยื่นอวัยวะส่วนใดเข้าใกล้ประทัดที่จุดไฟแล้ว
- ออกห่างจากบริเวณที่จุดประทัดในระยะไม่ต่ำกว่า 10 เมตร เพราะอาจได้รับอันตรายจากสะเก็ดไฟ
อุบัติเหตุทางถนน
- เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมขับรถ พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท เพราะอาจหลับในขณะขับรถได้
- ตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะเครื่องยนต์ ระบบเบรก ยางรถยนต์ สัญญาณไฟ รวมถึงเติมน้ำในหม้อน้ำ น้ำมันคลัตช์ น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- วางแผนและเลือกใช้เส้นทางที่ปลอดภัย โดยตรวจสอบเส้นทางล่วงหน้าจากเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันแนะนำเส้นทาง
- เพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ อาทิ เส้นทางชำรุด ทางโค้ง ทางแยก เส้นทางที่ทัศนวิสัยไม่ดี
- ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยไม่ขับย้อนศร ไม่แซงในระยะกระชั้นชิด ไม่ขับฝ่าสัญญาณไฟ และเร็ว เมา โทร ง่วงไม่ขับอย่างเด็ดขาด
- จอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย ทุกระยะทาง 150 กิโลเมตร หรือทุก 2 ชั่วโมง หรือเมื่อมีอาการง่วงนอน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการง่วงหลับใน