กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2563 วันแรกอย่างยิ่งใหญ่ อ.ส.ค. โชว์สุดยอดวิทยาการด้านการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมนมไทยในรอบปี ภายใต้แนวคิด "รักนม รักฟาร์ม สืบสาน รักษา ต่อยอดโคนมอาชีพพระราชทาน" พร้อมจัดประกวดโคนม ครั้งที่ 37 ชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่10) และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเปิดเวทีกระตุ้นให้เกษตรกรพัฒนาโคนมให้เทียบเท่ามาตรฐานระดับสากล
ณ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี วันนี้ ( 29 มกราคม 2563) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2563 ณ บริเวณเชิงเขาตาแป้น อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยมี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ, หัวหน้าส่วนราชการภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีและหัวหน้าส่วนราชการระดับสูงจังหวัดสระบุรี, ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ดร.อาทิตย์ เพ็ชรรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อ.ส.ค., ผู้บริหาร และพนักงาน อ.ส.ค. พร้อมด้วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม และประชาชนเข้าเฝ้ารับเสด็จอย่างเนืองแน่น
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้อ.ส.คจัดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่9) ที่พระองค์ได้พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่ปวงชนชาวไทยและเพื่อถ่ายทอดความก้าวหน้าการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ของการเลี้ยงโคนม/มีการแลกเปลี่ยนความรู้ทัศนคติและประสบการณ์ระหว่างเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมนมในประเทศ กิจกรรมประกวดโคนมประเภทต่างๆ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม/พระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศการประกวดโค ประเภทโคนมมากท้องแรกอายุไม่เกิน ๒๘ เดือน และได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศการประกวดโค ประเภทโคนมมากไม่จำกัดอายุ
ซึ่งนับเป็นเกียรติประวัติสูงสุดแก่ผู้ประกอบอาชีพการเลี้ยงโคนมและวงการอุตสาหกรรมโคนมของประเทศไทย ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเกิดความภาคภูมิใจในอาชีพ/ ทำให้คนไทยได้ เข้าใจความเป็นมาและวิถีอาชีพการเลี้ยงโคนมและอุตสาหกรรมโคนมของประเทศไทย ส่งผลให้มีการบริโภคนมเพิ่มมากขึ้น สร้างความมั่นคงยั่งยืนต่ออาชีพการเลี้ยงโคนม โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มกราคม-9 กุมภาพันธ์ 2563 ณ บริเวณเชิงเขาตาแป้น อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
ด้านดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวเพิ่มเติมถึงกิจกรรมที่น่าใจภายในงาน สำหรับปีนี้ อ.ส.ค.ได้จัดงานเทศกาล โคนมแห่งชาติ ประจำปี 2563 ขึ้นภายใต้แนวคิด "รักนม รักฟาร์ม สืบสาน รักษา ต่อยอด โคนมอาชีพพระราชทาน" โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ จัดเวทีประกวดโคนม ครั้งที่ 37 ชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่10) และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และงานสัมมนาวิชาการ, นิทรรศการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร อาทิ การเสาวนาเรื่อง Dairy 4.5:Smart Application to Smart Farmer :โคนม4.5 เลือกเทคโนโลยีที่ใช้ให้กับฟาร์มโคนม การสัมมนาเรื่องการบริหารฟาร์มยุคใหม่ ก้าวไกลด้วยแอปพลิเคชั่น "เซียน" และการสัมมนาเรื่อง การตรวจยีนในโคนมเพื่อเพิ่มมูลค่า เป็นต้น โซนนิทรรศการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเกษตร การสาธิตและการจัดแสดงผลงานวิจัยด้านการพัฒนาโคนมและอุตสาหกรรมโคนมโดยได้รับความร่วมมือจาก ภาครัฐ และภาคเอกชน โซนบูธออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และมีการเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานได้ลองชิมผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ครสชาติใหม่ๆ การประกวดแข่งขันโคนมประเภทต่างๆ การออกร้านจำหน่ายสินค้าOTOP และสินค้าที่เกี่ยวกับการเกษตรต่างๆ, สัมผัสบรรยากาศฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค การเปิดให้เยี่ยมชมโรงงานผลิตนมไทย-เดนมาร์ค ชมสาธิตการรีดนมโค และการทำปุ๋ยนมสดจากผู้เชี่ยวชาญของฟาร์มโคนม. ไทย-เดนมาร์ค และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือ งาน Thai-Denmark Milksic Festival ครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 พบปะกับศิลปินต่างๆมากมาย เป็นต้น
ผอ.อ.ส.ค. กล่าวด้วยว่า"โคนมอาชีพพระราชทานเป็นอาชีพอันทรงคุณค่าที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานไว้ให้แก่เกษตรกรไทย ด้วยทรงเล็งเห็นว่า อาชีพการเลี้ยงโคนมจะทำให้ชาวไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่าทั้งยังสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยได้มีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนในด้านการรณรงค์การบริโภคนมของคนไทย ได้มุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมการบริโภคนมในสังคมไทยให้เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เยาวชน และคนรุ่นใหม่เพื่อเป็นการเสริมสร้างโภชนาการและสุขอนามัยที่ดี ซึ่งทางกระทรวงเกษตรฯ ก็ได้มีการมอบนโยบายแก่ อ.ส.ค. มาโดยตลอด ในเรื่องการตอกย้ำเพื่อสร้างการรับรู้ในการบริโภคมนม เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนไทยหันมาดื่มนมกันมากขึ้น โดยมีเป้าหมายการเพิ่มปริมาณจาก 18 ลิตร/คน/ปี เป็น 25 ลิตร/คน/ปี ภายในปี 2569 ซึ่งนอกจากการบริโภคนมคุณภาพดีที่ได้มาจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทย นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยมีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรฯ ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางภาคการเกษตร ตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมนมไทยให้พัฒนายิ่งขึ้นไปอีกด้วย
สำหรับประวัติความเป็นมา "วันโคนมแห่งชาติ" ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2503 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง (ในรัชกาลที่ 9) ในคราว เสด็จฯ ประพาสทวีปยุโรปได้เสด็จประทับแรม ณ ประเทศเดนมาร์ก ทรงสนพระทัยในกิจการฟาร์มโคนมของชาวเดนมาร์กเป็นอย่างมาก ด้วยทรงเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมน่าจะเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวไทย หลังจากเสด็จฯ นิวัติประเทศไทย
รัฐบาลเดนมาร์กได้ถวายโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมเป็นของขวัญแด่ล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ เพื่อให้ดำเนินโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยบรรลุตามเจตนารมณ์ ที่ตั้งไว้ทั้งนี้ได้มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 20ตุลาคม 2504โดยได้ดำเนินการจัดตั้ง "ฟาร์มโคนม" และ "ศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย – เดนมาร์ค" ที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี โดยเมื่อวันที่ 16มกราคม2505 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) และสมเด็จพระเจ้าเฟรดเดอริคที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ก ได้ทรงประกอบพิธีเปิดฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คอย่างเป็นทางการ และรัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 17 มกราคม ของทุกปีเป็นวันโคนมแห่งชาติ จากนั้นมาวันโคนมแห่งชาติ จึงถือเป็นวันสำคัญยิ่งต่อเกษตรกรที่ประกอบอาชีพการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย อ.ส.ค. ก็จะมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของในหลวงรัชกาลที่ 9