กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
ทิสโก้ร่วมรณรงค์ "World Cancer Day" จัดแคมเปญ "Zero Cancer" สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง ใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเงินช่วยวางแผนรับมือความเสี่ยง พร้อมเดินหน้าสนับสนุนกองทุนเพื่องานวิจัยทางการแพทย์หวังลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง
นายพิชา รัตนธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (Mr.Picha Ratanatam, Chief Wealth Management Business-Banking of TISCO Bank Public Company Limited) เปิดเผยว่า ในปัจจุบันโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทยและของโลก จากรายงานสถิติสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า โรคมะเร็งเป็นภัยร้ายที่ครองอันดับ 1 สาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยมายาวนานถึง 20 ปีซ้อน หรือเพิ่มขึ้น 123.5% จากปี 2542 ที่อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 36,091 คน เพิ่มเป็น 80,665 คน ในปี 2561 นั่นหมายถึงทุกๆ ประมาณ 6 นาที จะมีคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง 1 คน ขณะที่ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยโรคมะเร็งรายใหม่จากทั่วโลกในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 18.1 ล้านคน เสียชีวิตถึง 9.6 ล้านคน
จากสภาวะการณ์ดังกล่าว องค์การอนามัยโลกและสมาคมต่อต้านมะเร็งสากล จึงกำหนดให้วันที่ 4 ก.พ.ของทุกปีเป็นวันมะเร็งโลก (World Cancer Day) เพื่อให้ประเทศต่างๆ ตระหนักถึงความสำคัญของภัยคุกคามของโรคร้ายนี้ โดยการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่คนในประเทศ เพราะนับวันประชากรที่เจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นในทุกเพศทุกวัย จากสภาพแวดล้อมและปัจจัยทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงซึ่งเร่งภาวะการก่อมะเร็งมากขึ้น สิ่งที่น่ากังวลตามมาคือภาระด้านการรักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูงอย่างมาก ซึ่งหากพิจารณาข้อมูลการเบิกจ่ายค่าบริการโรคมะเร็งเฉพาะในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในปี 2561 มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา 2.3 แสนคน คิดเป็นเงินชดเชยค่ารักษากว่า 9.6 พันล้านบาท หรือเฉลี่ยกว่า 4 หมื่นบาทต่อคน ซึ่งหากเป็นโรงพยาบาลเอกชนค่ารักษาจะยิ่งสูงกว่าอีกหลายเท่า (ดังแผนภาพ)
"ในฐานะผู้ให้บริการด้านวางแผนการเงิน ทิสโก้จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง ร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์และวิชาชีพอื่นๆ โดยเน้นการให้สังคมตระหนักในมิติของการเตรียมตัวรับมือหากโชคร้ายเกิดกับตัวเราหรือครอบครัว ด้วยการแนะนำให้วางแผนคุ้มครองความเสี่ยงเพื่อรองรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา ซึ่งข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ยืนยันว่า หากมีการตรวจพบแต่เนิ่นๆ มะเร็งมีโอกาสรักษาให้หายได้ จึงเป็นที่มาของแคมเปญ "Zero Cancer" เพื่อเป็นอีกแรงสนับสนุนร่วมกับภาคีหลักจากภาครัฐบาลและเอกชน"
"ในเมื่อปัจจุบันเรายังไม่สามารถป้องกัน หรือลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งได้ แต่เรามีความหวังที่จะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตให้น้อยลงหรือกลายเป็นศูนย์ได้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ ทิสโก้จึงสนใจติดตามความคืบหน้า และให้การสนับสนุนงานวิจัยนวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็งของสถาบันการแพทย์ระดับประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งศูนย์วิจัยภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็งคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ การวิจัยและพัฒนาด้านการรักษาโรคมะเร็งในเด็ก ซึ่งมีโอกาสหายขาดได้สูงกว่ามะเร็งในผู้ใหญ่ ของโรงพยาบาลรามาธิบดี โดยแคมเปญ "Zero Cancer" นี้ ทิสโก้จะบริจาครายได้ส่วนหนึ่งจากการขายผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ ให้แก่ กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ฯ โรงพยาบาลรามาธิบดี ผู้นำด้านนวัตกรรมการรักษามะเร็งในเด็ก โดยความสำเร็จล่าสุด คือ สามารถคิดค้นวิธีการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมียในเด็กให้หายขาดกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ กองทุนฯ นี้จะช่วยให้เด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งสามารถเข้าถึงนวัตกรรมการรักษา และมีโอกาสหายขาดเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่ลูกค้าซื้อผ่านธนาคารทิสโก้ตลอดปีนี้ เราก็จะมอบรายได้ค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่งให้กับกองทุนวิจัยภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็งของจุฬาฯ ด้วยเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยเมื่อปีกลายมียอดบริจาคสมทบทุนจากทั้งผลิตภัณฑ์กองทุนรวมและประกันสุขภาพ รวม 3.5 ล้านบาท ซึ่งเรามีความตั้งใจที่จะให้การสนับสนุนไปอย่างต่อเนื่อง"
ทั้งนี้ ทิสโก้มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นที่ปรึกษาด้านประกันสุขภาพที่ดี (Health Protection Advisory) โดยการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจแก่สังคม ให้เห็นถึงความจำเป็นในการวางแผนรับมือภาระทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงต่างๆ ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา ซึ่งจะช่วยให้มีกำลังที่จะรับการรักษาได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งการพัฒนาคัดเลือกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพที่คุ้มค่า ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยด้านนวัตกรรมการรักษา