กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--วิเคราะห์ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์
นายสุชัย สกุลรุ่งเรืองชัย ผู้อำนวยการเขตวัฒนา กทม. กล่าวกรณีต่างด้าวร้องถูกเทศกิจเขตวัฒนาเรียกค่าปรับ 2,000 บาท ขณะนำรถเข้าจอดในร้านว่า สำนักงานเขตวัฒนา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2563 เจ้าหน้าที่เทศกิจได้ลงพื้นที่กวดขันจับปรับผู้ฝ่าฝืนจอดรถจักรยานยนต์บนทางเท้า บริเวณถนนปรีดีพนมยงค์ ข้างปั้มน้ำมันเชลล์ ฝั่งตรงข้ามซอยปรีดีพนมยงค์ 26 พบรถจักรยานยนต์ จอดดับเครื่องยนต์อยู่บนทางเท้าบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 592 และไม่พบผู้กระทำผิด จึงเคลื่อนย้ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ไม่ให้กีดขวางทางสัญจร ซึ่งขณะเคลื่อนย้ายมีผู้มาแสดงตนเป็นเจ้าของรถ เจ้าหน้าที่เทศกิจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย พ.ศ.2535 มาตรา 17(2) มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และปรับในอัตราขั้นต่ำ 2,000 บาท พร้อมมอบเอกสารประกอบข้อกล่าวหาให้ผู้กระทำความผิดทราบ ทั้งนี้ พื้นที่ถนนปรีดีพนมยงค์ เป็นบริเวณที่ได้รับการร้องเรียนเรื่องการจอดหรือขับขี่รถบนทางเท้าเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้มาตรการเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรบนทางเท้า และแม้จะมีการดำเนินการอย่างจริงจัง แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืนกระทำผิด สำนักงานเขตวัฒนาจึงจำเป็นต้องบังคับการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด เพื่อไม่ให้มีการฝ่าฝืนกระทำความผิดอีกต่อไป
ด้าน นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวว่า สำนักเทศกิจ ได้ประสานกับหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตวัฒนา ทราบว่ารถผู้กระทำผิด จอดอยู่บนทางเท้าสาธารณะ ไม่ได้ขับรถเข้าไปภายในอาคาร เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบและเปรียบเทียบปรับในอัตราขั้นต่ำ 2,000 บาท ทั้งนี้ บริเวณดังกล่าวจะมีผู้ฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้าจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตวัฒนา ได้มีการตรวจตรากวดขัน จับปรับผู้ฝ่าฝืนในพื้นที่เขตอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เลือกปฏิบัติกับบุคคลหนึ่งบุคคลใด อย่างไรก็ตาม สำนักเทศกิจ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ ทั้ง 50 สำนักงานเขต กวดขันอย่างจริงจังต่อเนื่อง โดยตั้งจุดปรับผู้ฝ่าฝืนในบริเวณทางเท้า และถนนที่มีผู้ฝ่าฝืนจำนวนมาก รวมถึงเพิ่มมาตรการจับ - ปรับ ผู้กระทำผิดในอัตราที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันได้กำชับฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขต กำกับ ดูแลเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติต่อประชาชนหรือผู้กระทำผิดอย่างเป็นธรรม เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน