กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--วิเคราะห์ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวกรณีนักวิชาการด้านภูมิศาสตร์และวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเซาท์แธมตัน ประเทศอังกฤษ ระบุจากการจัดอันดับเมืองและประเทศที่มีความเสี่ยงเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 พบกรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีความเสี่ยงที่สุดในโลกว่า กทม. ได้ติดตามสถานการณ์และดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ( Novel Coronavirus 2019) มาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้สำนักการแพทย์ กทม. ได้เตรียมเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operations Center : EOC) เพื่อติดตามและรายงานสถานการณ์ความคืบหน้า ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนในการดูแลป้องกันตนเองจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 รวมถึงแนวทางปฏิบัติของโรงพยาบาล ผ่าน Facebook Fanpage สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร และสื่อออนไลน์ของทุกโรงพยาบาล หากสงสัยในอาการของโรค สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนสุขภาพสำนักการแพทย์ โทร.1646 บริการตอบปัญหาและให้คำปรึกษา หรือหากต้องการปรึกษาแพทย์จะประสานต่อไปยังศูนย์บริหารราชการฉับไวใสสะอาด (Bangkok Fast & Clear : BFC) ของแต่ละโรงพยาบาลในสังกัดกทม. เพื่อนัดพบแพทย์ ขณะเดียวกัน กทม. ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงแรมดำเนินการตามมาตรฐานการป้องกันโรค โดยสังเกตอาการเจ็บป่วยของนักท่องเที่ยวและพนักงานผู้ให้บริการ หากพบนักท่องเที่ยวหรือพนักงานในโรงแรมมีอาการน่าสงสัย แจ้งได้ที่หมายเลขโทร.1422 พร้อมจัดหาห้องพักแยก เพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือพนักงานเข้าพัก โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวและสารคัดหลั่งของนักท่องเที่ยวหรือพนักงานนั้น จนกว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะมาถึงและดำเนินการตรวจสอบ ซึ่ง กทม. ได้จัดเตรียมหน่วยสอบสวนโรคเร่งด่วน SRRT ประจำอยู่ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง สามารถเข้าดำเนินการตรวจสอบได้ทันที
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้น สำนักอนามัย กทม. ยังร่วมกับสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมเตรียมความพร้อมตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรณีโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 และประสานข้อมูล สถานการณ์ มาตรการ แนวทางการเฝ้าระวัง สอบสวนโรค และติดตามการเปลี่ยนแปลง ของสถานการณ์ ตลอดจนจัดประชุมพัฒนาเครือข่ายและบุคลากรของศูนย์บริการสาธารณสุขกทม. เพื่อตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรณีโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 อีกด้วย