![สจล. เปิดตัว “ประตูสแกนอุณหภูมิ” สแกนเร็ว จับความร้อนไว ตั้งเป้าคัดกรองผู้ป่วยไข้สูง โคโรน่า]()
กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
ศ.ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า ภาควิชา
วิศวกรรมการแพทย์ คณะ
วิศวกรรมศาสตร์ สจล. ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ สจล. ได้ทำการวิจัยและพัฒนา "ประตูสแกนอุณหภู
มิร่างกายมนุษย์แบบเดินผ่าน" (Walk-through body temperature scanner) หรือเครื่องสำหรับสแกนอุณหภู
มิร่างกายมนุษย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเฝ้าระวังและคัดกรองบุคคลหรือผู้ป่วยที่มีไข้สูง ประกอบกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าหรือไวรัสอู่ฮั่น ทาง สจล. คาดว่าเครื่องมือดังกล่าวจะมีส่วนช่วยในการเฝ้าระวังและตรวจจับผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับหลักการทำงานของประตูสแกนอุณหภูมิฯ ดังกล่าว อาศัยหลักการทำงานของรังสีอินฟาเรด หรือคลื่นรังสีความร้อน ที่สามารถสแกนอุณหภู
มิร่างกายของมนุษย์ในช่วง 30-50 องศาเซลเซียส พร้อมระบบไฟแจ้งเตือนสถานะไฟแดงและไฟเขียว โดยมีความคาดเคลื่อนในการตรวจจับเพียง 5% และยังสามารถรองรับระบบตรวจจับใบหน้าด้วย AI เพื่อเพิ่มความแม่นยำในอนาคต
ส่วนของคุณสมบัติของเครื่องเป็นแบบ Work Station สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกไปยังพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน ด้วยขนาดความสูง 221 เซนติเมตร กว้าง 72 เซนติเมตร ลึก 59 เซนติเมตร ใช้งานผ่านเว็บแอปพลิเคชันควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมโปรแกรมที่ทำงานบนเว็บ โดยตัวเครื่องต้องมีคุณสมบัติดังนี้ จอแสดงผลชนิดสี แบบจอภาพ LCD ขนาดไม่ต่ำกว่า 23 นิ้ว, RAM ไม่น้อยกว่า 4 GB, มีระบบปฏิบัติการไม่น้อยกว่า Window 10 สามารถเชื่อต่อ wifi ได้
ด้าน นายแพทย์ อนวัช เสริมสวรรค์ รองคณะบดีฝ่ายบริการทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ สจล. กล่าวเสริมว่า เครื่องดังกล่าวจะทำการตรวจจับอุณหภู
มิร่างกายเมื่อมีคนเดินผ่านประตู หากพบว่าอุณหภู
มิร่างกายของผู้ที่เดินผ่านสูงไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส เครื่องจะแสดงสถานะไข้ต่ำ หากสูงเกิน 38 องศาเซลเซียส เครื่องจะแสดงสถานะว่าบุคคลคนนั้นมีไข้สูง และหากมีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 41.5 องศาเซลเซียส จะแสดงว่าบุคคลคนนั้นมีสถานะไข้ที่สูงอย่างรุนแรง
โดยปัจจุบันได้ทำการผลิตประตูสแกนอุณหภู
มิร่างกายมนุษย์แบบเดินผ่านแล้วเสร็จ จำนวน 3 เครื่อง ภายใต้งบประมาณ 1-1.2 แสนบาท หรือเฉลี่ยเครื่องละ 3-4 หมื่นบาท โดยหนึ่งในนั้นถูกนำไปใช้งานภายพื้นที่ทางเข้าของ คลินิกเวชกรรม สจล. และ อีก 2 เครื่อง ถูกนำไปใช้งานที่โรงพยาบาลสิรินธร เพื่อเฝ้าระวังและคัดกรองผู้มีไข้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ซึ่งจากติดตั้งมาได้ระยะหนึ่งแล้วนั้น พบว่าการทำงานของเครื่องเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ นายแพทย์ อนวัช กล่าวสรุป
ทั้งนี้ หากมีผู้ที่สนใจในเครื่องมือดังกล่าว ทาง สจล. ก็พร้อมที่จะร่วมมือในการต่อยอดทั้งในด้านวิชาการและเชิงพาณิชย์ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริหารงานทั่วไปและประชาสัมพันธ์ สจล. โทรศัพท์ 02-329-8111 เฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/kmitlofficial หรือเว็บไซต์ www.kmitl.ac.th
![]()
![]()