กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บิ๊กซีโชว์กำไรปี 50 เพิ่ม 17.8% เกินเป้า พร้อมเผยแผนลงทุนปี 51เปิด 8 สาขาใหม่ เอาใจผู้บริโภคต่างจังหวัดซื้อสินค้าดีราคาประหยัด มุ่งเน้นกลยุทธ์การตลาดสร้างแบรนด์ลอยัลตี้และปรับ รูปลักษณ์ทันสมัยเพื่อสร้างความแตกต่างและเข้าถึงผู้บริโภค พร้อมเน้นโครงการเพื่อเยาวชนและสังคมมากขึ้น
นางสาวรำภา คำหอมรื่น รองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานในปี 2550 โดยรวมเป็นที่น่าพอใจและเป็นไปตาม ความคาดหมายของบริษัทฯ แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวยจากหลายปัจจัยก็ตาม โดยบิ๊กซีมียอดขายจำนวน 61,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2549 จำนวน 3,567.2 ล้านบาทหรือ 6.1% จาก 58,032.8 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 2,502.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 378.8 ล้านบาท หรือ 17.8 % จาก 2,123.6 ล้านบาท ในปี 2549
“ผลประกอบการที่เติบโตของบริษัทส่วนหนึ่งมาจากการขยายสาขาใหม่ในปี 2550 จำนวน 5 สาขา คือ สาขาลำพูน สมุย ชลบุรี บุรีรัมย์ และหางดง ซึ่งช่วยขยายฐานลูกค้าให้กับบิ๊กซี ขณะที่การดำเนินกิจกรรมทาง การตลาดอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้บริโภคมีความพึงพอใจเข้ามาซื้อสินค้าที่บิ๊กซีเพิ่มขึ้น ทำให้การเติบโตของ ยอดขายเฉลี่ยของสาขาสูงขึ้น แม้ในช่วงสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวและสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในปีที่ผ่านมา” นางสาวรำภากล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ นางสาวรำภากล่าวว่า บริษัทจัดเตรียมงบการลงทุนประมาณ 6,200 ล้านบาท เพื่อใช้ในปรับปรุงสาขาเดิมและขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 8 สาขา โดยเน้นตลาดต่างจังหวัด เป็นหลัก คือ อยุธยา ราชบุรี สุโขทัย เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ กระบี่ นวนคร และ ธัญบุรี ทำให้บิ๊กซีจะมีสาขาเพิ่มจาก 54 สาขาในปี 2550 เป็น 62 สาขาในสิ้นปี 2551 ทั้งนี้ การขยายสาขาดังกล่าวจะเป็นรูปแบบคอมแพ็คขนาดพื้นที่ประมาณ 6,000 ตารางเมตร จำนวน 5 สาขา และรูปแบบสแตนดาร์ดขนาดพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร จำนวน 3 สาขา โดยทุกสาขาจะพัฒนาในรูปแบบสโตร์แบบ G4 หรือ Generation 4 ภายใต้ แนวคิดทันสมัยและโฉบเฉี่ยวของไฮเปอร์มาร์เก็ตและช้อปปิ้งมอลล์ เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มขีด ความสามารถของบิ๊กซีในการเขาถึงพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป อีกทั้งยังคงเน้นการส่งเสริมและสนับสนุนชุมชนเพื่อสร้างความเจริญให้กับท้องถิ่น และคืนกำไรให้กับชุมชน ทั้งการชำระภาษีคืนสู่ท้องถิ่นในทุกสาขาที่เปิดให้บริการ การจ้างงานในท้องถิ่น และการสนับสนุนการจัดกิจกรรมระดับจังหวัดและชุมชน นับเป็นหัวใจหลักสำคัญของการดำเนินธุรกิจของบิ๊กซี
“ในปีที่ผ่านมาถือว่า บิ๊กซีประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยกลยุทธ์ด้านการตลาดที่ทำให้บิ๊กซีมีความแตกต่างจากคู่แข่งและช่วยให้ลูกค้ามีความจงรักภักดีในบิ๊กซีและมั่นใจในการซื้อสินค้าที่บิ๊กซี ตลอดจนการบริหาร ต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ สามารถทำรายได้ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งบิ๊กซีมั่นใจว่า ในปีนี้ จะยังคงรักษาอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป” นางสาวรำภากล่าวอย่างมั่นใจ
รายการ 2550 2549 เปลี่ยนแปลง (%)
ล้านบาท ล้านบาท
ยอดขาย 61,600 58,032.8 +6.1
กำไรสุทธิ 2,502.4 2,123.6 +17.8
นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการตลาดในปีนี้ บิ๊กซียังคงเน้นกลยุทธ์การเป็นผู้นำด้านราคา การจัดกิจกรรม การตลาดที่มอบความสนุกสนานและประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค และการทำกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อ ตอกย้ำสโลแกน “เราให้คุณมากกว่าคำว่าถูก” เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมั่นและมั่นใจในการมาซื้อสินค้าและบริการที่ บิ๊กซี นอกจากนี้ ปีนี้บิ๊กซียังเน้นการสร้างแบรนด์ลอยัลตี้กับลูกค้า และมีโครงการปรับปรุงรูปลักษณ์ให้ทันสมัย ภายใต้แนวคิดการเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตที่มีความทันสมัย เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการลอยัลตี้โปรแกรมของบิ๊กซี
“ในปีนี้จะเห็นความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างที่บิ๊กซี ทั้งการปรับโฉมสาขาในรูปแบบ G4 และเพิ่มบริการ ต่าง ๆ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าบิ๊กซี ซึ่งเป็นกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ให้ได้รับ ความพึงพอใจเมื่อมาซื้อสินค้าที่บิ๊กซี”
นางสาวจริยากล่าวต่อไปว่า สำหรับการสร้างแบรนด์ลอยัลตี้ที่ได้มีการดำเนินการไปแล้วคือ การเปิดตัวสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ใหม่ ตรา “บิ๊กซี” ภายใต้สโลแกน “ทางเลือกของครอบครัวฉลาด” เพื่อให้สามารถตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ หลากหลาย และราคาประหยัด รวมถึงสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเทรนด์ของสินค้าในยุคนี้ และการเปิดตัวบัตร “บิ๊กซี ช้อป พลัส” เมื่อต้นปี ซึ่งคาดว่าจะมีสมาชิกบัตรเพิ่มขึ้นจาก 80,000 คน เป็น 120,000 คนในสิ้นปีนี้ และยังคงดำเนินกิจกรรมลอยัลตี้โปรแกรม อาทิ บัตรช้อปโทรฟรี และบัตรบิ๊กซีโบนัส อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บิ๊กซียังได้เปิดตัวครอบครัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ “ครอบครัววรรธนะสิน” เจ เจตริน ปิ่น เก็จมณี และลูก 3 คน ซึ่งสื่อถึงการเป็นครอบครัวคนรุ่นใหม่ ทันสมัยและฉลาดซื้อในการช้อปปิ้งที่บิ๊กซี ซึ่งจำหน่าย สินค้าที่มีคุณภาพและราคาประหยัด เช่นเดียวกับการ์ตูน “สาวบิ๊กซี” ซึ่งบิ๊กซีจะทำการปรับคาแรคเตอร์ของการ์ตูน “สาวบิ๊กซี” ที่ใช้ในการโฆษณาใหม่ให้มีรูปลักษณ์เป็นสาวทันสมัย คล่องแคล่ว และฉลาดซื้อ
สำหรับการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมนั้น นางสาวจริยากล่าวว่า ในปีนี้ บิ๊กซียังคงมุ่งเน้นการจัดกิจกรรม เพื่อเยาวชนและสังคมโดยรวมเช่นเดียวกับที่ผ่านมา โดยบิ๊กซีและมูลนิธิบิ๊กซี จะจัดทำโครงการ “เด็กไทย ขยันอ่าน” ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยเห็นความสำคัญของการอ่าน นอกจากนี้ ยังดำเนินกิจกรรมด้านการศึกษาแก่เยาวชนผู้ด้อยโอกาสและกิจกรรมเพื่อสังคม โดยล่าสุด มูลนิธิบิ๊กซี ได้มอบเงินจัดสร้างอาคารเรียนบิ๊กซี 13 บิ๊กซี 14 และบิ๊กซี 15 มูลค่ากว่า 5.5 ล้าน ให้แก่โรงเรียนในจังหวัดอุดรธานี นครสวรรค์ และสงขลา รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อาทิ การจัดสร้างบ้านหนังสือบิ๊กซีให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ การจัดสร้างสนามบาสเก็ตบอลและสนามเด็กเล่นมอบให้กับชุมชนต่างๆ การมอบทุน การศึกษาแก่นักเรียน การมอบสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนโดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้กับโรงเรียนในพื้นที่ที่บิ๊กซีไปเปิดสาขา เป็นต้น
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ: BIGC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536 เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในรูปแบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ ภายใต้ชื่อ “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่หลากหลายในราคาสมเหตุสมผลภายใต้สโลแกน “เราให้คุณมากกว่าคำว่าถูก” เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ ผู้บริโภค ปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการจำนวน 55 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.bigc.co.th
รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์ หรือ สุภาภรณ์ สุธรรมโกศล
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 0 2252 9871