กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
- สมศ.เดินหน้าพัฒนาการประเมินผ่านระบบดิจิทัล ลดภาระเอกสาร
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เผยสถานการณ์การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่(2559-2563) มีสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ได้รับการประเมินแล้วส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีมาก-ดีเยี่ยม เนื่องจากแต่ละแห่งมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและผู้เรียน พร้อมนำเอานวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน ส่งผลให้การประเมินคุณภาพภายนอกเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม สมศ.จะเดินหน้าประเมินต่อเนื่องในปี 2563 ซึ่งขณะนี้มีสถานศึกษาขอเข้ารับการประเมินแล้วกว่า 2,500 แห่งทั่วประเทศ พร้อมติวเข้มผู้ประเมินภายนอกให้มีประสิทธิภาพและมีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้จะนำเอาระบบ AQA ระยะที่ 2 มาใช้เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและลดภาระด้านเอกสารรวมทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่สถานศึกษาที่ขอเข้ารับการประเมินโดยระยะที่ 2 จะนำร่องสถานศึกษาด้านการอาชีวศึกษาก่อน เป็นการรองรับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่มีการนำเอาระบบ ไอทีมาใช้ในสำหรับพัฒนาระบบการศึกษาไทย
นางสาวขนิษฐา ตั้งวรสิทธิชัย รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา กล่าวว่า การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (2559-2563) สมศ.ได้ดำเนินการประเมินและลงพื้นที่ไปยังสถานศึกษาต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์การประเมินขณะนี้ถือว่าเป็นไปด้วยดีและมีความต่อมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2562 ที่ผ่านมามีสถานศึกษาที่ลงพื้นที่ประเมินแล้ว กว่า 2,500 แห่ง ซึ่งผลการประเมินภายนอกในปีที่ผ่านมาผลการประเมินเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับดีเยี่ยม และดีมาก เนื่องจากสถานศึกษาแต่ละแห่งมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร และวัสดุอุปกรณ์ แหล่งเรียนรู้ ตลอดจนถึงการได้มาของผู้เรียน ทำให้ผลประเมินออกมาอยู่ในระดับที่ดี ทั้งนี้ สถานศึกษาที่ได้รับการประเมินไปแล้วนั้นแต่ละแห่งมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันทั้งด้านผู้บริหารและด้านตัวผู้เรียน รวมทั้งมีสถานศึกษาหลายแห่งที่มีการประยุกต์วิธีการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ส่งผลให้ภาพรวมในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี
นางสาวขนิษฐา กล่าวต่อว่า ในปี 2563 สมศ.จะทำการประเมินสถานศึกษาที่เหลืออยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มีสถานศึกษาที่ส่งรายชื่อเข้ามาเพื่อขอรับการประเมินแล้วกว่า 2,500 แห่งทั่วประเทศ และคาดว่าก่อนสิ้นปีการศึกษาในเดือนมีนาคม 2563 นี้จะมีสถานศึกษาที่ขอรับการประเมินเพิ่มเติม ดังนั้นสมศ.จึงได้วางแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ในปีสุดท้ายนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อการศึกษาไทยมากที่สุด ภายใต้นโยบายของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการให้การประเมินคุณภาพภายนอกขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายสำคัญของการสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในตัวผู้ประเมินภายนอกให้มีมิติมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านการประเมินให้มีความหลากลาย ทั้งในส่วนของบทบาทหน้าที่ การทำงาน อาทิ การเพิ่มผู้ประเมินภายนอกสำหรับสถานศึกษาที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ ซึ่งมีการจัดการเรียนการสอนในลักษณะพิเศษบางประการ เช่น สถานศึกษาที่มีความเป็นเลิศเฉพาะด้าน สถานศึกษาที่จัดการศึกษาเพื่อผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส นอกจากนี้จะต้องมีการทบทวนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการประเมินให้ผู้ประเมินภายนอกเข้าใจว่าในปี 2563 จะต้องมีความชัดเจนมากขึ้นทั้งกระบวนการทำงานและขั้นตอนต่างๆ ส่วนสมศ.จะพัฒนาและมุ่งเน้นการสร้างให้องค์กรเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับสากล สร้างความเข้มแข็งให้แก่ตัวองค์กร และสร้างความน่าเชื่อถือ
โดยที่ผ่านมาสมศ.พยายามจะลดภาระการทำเอกสารของสถานศึกษาลงโดยการพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อการประเมินคุณภาพภายนอก(Automated QualityAssurance : AQA) โดยมีการแบ่งระบบการทำงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรกได้มีการประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือให้สถานศึกษาเปลี่ยนวิธีการส่งรายงานการประเมินตนเอง (SAR) จากรูปเล่มกระดาษเปลี่ยนเป็นการจัดส่งไฟล์ผ่านอีเมลเข้าสู่ระบบ AQA ซึ่งสถานศึกษาส่วนใหญ่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่งผลให้สามารถจัดเก็บข้อมูลรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษาไว้อย่างเป็นระบบ สะดวกต่อการศึกษาข้อมูลก่อนการลงประเมิน และในปี 2563 สมศ.จะพัฒนาระบบในระยะที่สองเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ถือว่าเป็นการสนับสนุนการประเมินคุณภาพสถานศึกษาจากรูปแบบเอกสาร( Paper-based EQA) ไปสู่รูปแบบดิจิทัล (Digital-based EQA) ด้วยการส่งเสริมให้หน่วยงานต้นสังกัดเป็นศูนย์สารสนเทศด้านการประกันคุณภาพการศึกษา (Quality Assurance Information Center) โดยที่สถานศึกษาส่งข้อมูลไปยังต้นสังกัดได้เลย ไม่จำเป็นต้องส่งข้อมูลหรือจัดทำเอกสารประกอบการประเมินคุณภาพภายนอกมายังสมศ. เพื่อลดภาระการป้อนข้อมูลด้านการประกันคุณภาพของสถานศึกษา ซึ่งจะเริ่มทดลองใช้ในการประเมินการศึกษาด้านการอาชีวศึกษาก่อน ทั้งนี้สมศ.มุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบการประเมินโดยใช้ระบบไอทีให้สมบูรณ์มากที่สุด เพื่อรองรับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการซึ่งจะมีการนำเอาระบบไอทีมาใช้ในสำหรับพัฒนาระบบการศึกษาของไทย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 0-2216-3955 หรือเข้าไปที่ www.onesqa.or.th