![“วช.” ส่งมอบ “โดรน” ให้กรมอุทยานฯ ทำแผนที่ 3 มิติ –เฝ้าระวังพื้นที่ป่าถูกบุกรุกเพิ่ม]()
กรุงเทพฯ--4
ก.พ.--สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 3
ก.พ. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุม
ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับสมาคมกีฬา
เครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ จัดพิธีส่งมอบอากาศยานไร้คนขับ พร้อมระบบประมวลผล และอุปกรณ์ในการทำแผนที่ 3 มิติ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ และใช้เป็นข้อมูลในพื้นที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายพิศิษฐ์ มิตรเกื้อกูล นายกสมาคมกีฬา
เครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ เข้าร่วม
ดร.วิภารัตน์ กล่าวว่า วช.มีภารกิจเรื่องการนำองค์ความรู้งานวิจัย และนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ โดยกรมอุทยานฯ เป็นผู้ที่นำโดรนไปใช้งานได้จริง ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากกรณีเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวง จ.เชียงราย ทางวช. ได้นำโดรนร่วมภารกิจค้นหา เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ จึงคิดว่าโดรนน่าจะมีประโยชน์ ทางวช.จึงร่วมมือกับสมาคมกีฬา
เครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ และกรมอุทยานฯ ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยเน้นการใช้งานในพื้นที่อุทยาน รวมถึงใช้งานในภารกิจต่าง ๆ
ขณะที่ นายจงคล้าย กล่าวว่า หากเรามีโดรนมาตั้งแต่ 20-30 ปีก่อนหน้านี้ เชื่อว่าป่าคงไม่หายไปขนาดนี้ แต่ในปัจจุบันเราเหลือพื้นที่ป่าประมาณ 30เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากในสมัยก่อนเราไม่มีเทคโนโลยีในการบันทึกภาพเพื่อเป็นหลักฐาน หากเมื่อก่อนมีภาพถ่ายทางอากาศอย่างชัดเจนแบบนี้ เราคงไม่ต้องไปทะเลาะกับชาวบ้าน แต่ในปัจจุบันเราสามารถใช้โดรนบินเพื่อบันทึกภาพได้อย่างชัดเจนว่ามีพื้นที่ไหนถูกบุกรุกไปบ้าง หากมีการบุกรุกป่าเพิ่มขึ้น เราก็จะใช้ภาพเหล่านี้เป็นหลักฐานได้
ด้านนายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ตนมีความสามารถ และเชี่ยวชาญเรื่องอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน โดยทางสมาคมกีฬา
เครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ วช.และกรมอุทยานฯ ในปัจจุบัน โดรนไม่ใช่ของเล่นอย่างที่หลายคนมองในอดีต แต่ปัจจุบันสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น การถ่ายทำแผนที่ ซึ่งสมาคม ร่วมกับ วช. และกรมอุทยานฯ ได้ร่วมมือกันพัฒนาความสามารถของโดรนมาใช้ในการทำแผนที่ ในอดีตการถ่ายภาพทำแผนที่ต้องใช้
เครื่องบินจริง ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง แต่ในปัจจุบันเราได้นำโดรนมาใช้ ซึ่งปลอดภัย ประหยัด สะดวก และใช้งานได้ง่าย โดยการควบคุมผ่านระบบซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ในแง่การใช้งานของกรมอุทยานฯ ยังสามารถใช้โดรนในการบินสำรวจ เฝ้าระวังต้นไม้ที่ปลูกแล้วว่าพื้นที่ใดหายไปบ้าง เพราะในอดีตจะใช้เจ้าหน้าที่ในการเดินสำรวจ ซึ่งใช้เวลานาน แต่เมื่อมีโดรนก็สามารถประหยัดเวลา และทรัพยากรได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการใช้งานโดรน จะต้องมีการอบรมเจ้าหน้าที่ก่อนใช้งานจริง
![]()
![]()