นักวิจัย สกสว. พัฒนา 'ตู้ปลูกสตรอว์เบอร์รี่ระบบปิด’ ผลผลิตสดใหม่ ไร้สารเคมี ปลูกได้ทุกฤดูกาล

ข่าวทั่วไป Wednesday February 5, 2020 12:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นักวิจัย สกสว. ยกระดับการปลูกสตรอว์เบอร์รี่จากแปลงปลูก สู่ 'การปลูกสตรอว์เบอร์รี่ในระบบปิดโดยใช้แสงไฟเทียมและระบบ IoT ภายในตู้คอนเทนเนอร์' ได้ผลผลิตสะอาด ปลอดภัย ไร้สารเคมี แถมปลูกได้ทุกฤดูกาล ที่สำคัญเคลื่อนย้ายได้ เน้นกลุ่มเป้าหมาย ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สร้างจุดขายที่ 'ความสด' และ 'การบริโภครูปแบบใหม่' พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีเมษายนนี้!! 'สตรอว์เบอร์รี่' นับเป็นผลไม้เมืองหนาวที่ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก มีคุณค่าทางโภชนาการ และมูลค่าสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนอกฤดูการผลิตสตรอว์เบอร์รี่ในประเทศไทยส่วนใหญ่ทำในเขตพื้นที่ภาคเหนือซึ่งมีสภาพอากาศเหมาะสม ทว่าข้อจำกัดของการปลูกอยู่ที่ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ การระบาดของโรคและแมลง อีกทั้งการดูแลบำรุงรักษาที่มีขั้นตอนยุ่งยาก ตั้งแต่คัดพันธุ์ ตัดไหล การบำรุงสารอาหารต่างๆ ไปจนถึงการดูแลรักษาผลผลิตหลังเก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตสตรอว์เบอร์รี่ที่ได้มีคุณภาพและปริมาณด้อยลง รวมทั้งมีการปนเปื้อนของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในระดับสูง เพื่อพัฒนาระบบผลิตสตรอว์เบอร์รี่ให้ได้ผลผลิตคุณภาพสูง ไร้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และปลูกได้ในทุกฤดูกาล ผศ.ดร.สิริวัฒน์ สาครวาสี คณะผลิตกรรมการเกษตร และ ผศ. ดร. โชติพงศ์ กาญจนประโชติ คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้วิจัยและพัฒนาระบบปิดและระบบ IoT เพื่อการผลิตสตรอว์เบอร์รี่ภายใต้แสงเทียมในตู้คอนเทนเนอร์ ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ผศ.ดร.สิริวัฒน์ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นงานวิจัยเนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันการปลูกพืชในระบบปิด หรือโรงงานผลิตพืช เป็นเทคโนโลยีที่กำลังแพร่หลายในประเทศไทย โดยเป็นระบบการปลูกพืชที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อมเกือบทั้งหมดให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตของพืชตลอดเวลา โดยใช้อุปกรณ์ เช่น แหล่งกำเนิดแสงเทียม เครื่องปรับอากาศและระบบเพิ่มปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้สามารถผลิตพืชที่มีคุณภาพสูงในทุกสถานที่และทุกสภาพอากาศ จึงมีแนวคิดที่จะทดลองปลูกสตรอว์เบอร์รี่ซึ่งจัดเป็นพืชที่มีความท้าทายสำหรับการปลูกในระบบปิดเนื่องจากมีขั้นตอนการจัดการและดูแลรักษาที่ค่อนข้างซับซ้อน โดยแม้จะมีความพยายามทดลองปลูกโดยนักวิจัยอิสระอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร "งานวิจัยจึงพัฒนาต้นแบบระบบปิดและระบบ IoT เพื่อผลผลิตสตรอว์เบอร์รี่ภายใต้แสงเทียมในตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งนอกจากด้านในตู้จะมีการปลูกสตรอว์เบอร์รี่แล้ว ยังมีการพัฒนาระบบ IoT (Internet of Things) เพื่อสังเกตการณ์และควบคุมสภาพแวดล้อมภายใต้การแนะนำของ ผศ.ดร.โชติพงษ์ กาญจนประโชติ อาจารย์คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งเป็นการดึงศักยภาพของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเข้ามาสร้างระบบติดตามและควบคุมการปลูกพืชแบบทางไกล ผ่านการใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์วัดปริมาณแสง ความชื้น อุณหภูมิ และปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อช่วยให้เกษตรกรหรือผู้ประกอบการสังเกตการณ์และควบคุมสภาพแวดล้อมในตู้ปลูกได้ตลอดเวลาและไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม โดยทีมวิจัยได้ออกแบบระบบให้ผู้ที่นำเทคโนโลยีไปใช้สามารถปลูกและดูแลสตรอว์เบอร์รี่ได้ง่ายที่สุด เพื่อช่วยประหยัดเวลาและสามารถผลิตสตรอว์เบอร์รี่ได้จริง ทั้งนี้ตู้ปลูกสตรอว์เบอร์รี่ที่ออกแบบไว้มีขนาดเหมาะสำหรับการปลูกจำนวน 200-300 ต้น และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 4-5 เดือน โดยการวิจัยในเฟสแรกจะเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคมนี้" ผศ.ดร.สิริวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่เลือกพัฒนาระบบผลิตสตรอว์เบอร์รี่ในตู้คอนเทนเนอร์นั้น เนื่องจากได้คุยกับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจให้เช่าโกดังเก็บสินค้า ซึ่งหาตู้คอนเทนเนอร์ได้ในราคาไม่แพง และมีโจทย์ว่าอยากลงทุนและหาแนวทางทำธุรกิจใหม่ๆ กับตู้คอนเทนเนอร์ จึงเกิดความสนใจร่วมกันที่จะลองพัฒนาระบบปลูกพืชแบบปิดในตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งข้อดีจุดหนึ่งคือเคลื่อนย้ายได้ สามารถให้เช่าเพื่อนำไปจัดแสดงตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในแบบระยะสั้นและระยะยาว อีกทั้งยังมองการประยุกต์ใช้งานไปที่กลุ่มเป้าหมาย เช่น ประชาชนที่อยากได้ตู้ปลูกพืชในบ้าน ผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านกาแฟ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานสตรอว์เบอร์รี่แบบใหม่ให้ลูกค้า "สมมุติว่ามีร้านกาแฟ มีลูกค้าสั่งเมนูสตรอว์เบอร์รี่สมู้ทตี้ ผู้ประกอบการก็สามารถตัดลูกสตรอว์เบอร์รี่สดๆ จากตู้ปลูกฯ มาประกอบเมนูได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องล้าง สามารถรับประทานได้เลย เพราะสตรอว์เบอร์รี่ที่ปลูกในระบบฯ นั้น มีความสะอาด ปลอดสารจำกัดศัตรูพืช 100% ทำให้ลูกค้าได้รับประทานสตรอว์เบอร์รี่ที่สดใหม่ และปลอดภัย เป็นจุดขายที่ช่วยดึงดูดความสนใจลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่แนวโน้มผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มหันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น" ทั้งนี้แม้ว่าการคิดค้นพัฒนาจะตั้งต้นจากตู้คอนเทนเนอร์ แต่ระบบปิดและระบบ IoT เพื่อการผลิตสตรอว์เบอร์รี่ที่พัฒนาขึ้น ก็ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการใช้ประโยชน์ในรูปแบบตู้คอนเทนเนอร์เท่านั้น ทีมวิจัยสามารถออกแบบติดตั้งตู้ปลูกระบบปิดและระบบ IoT นี้ ได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการของเกษตรกรและผู้ประกอบการ ส่วนแผนพัฒนาต่อยอดงานวิจัยในเฟสต่อไปทีมวิจัยเตรียมศึกษาพัฒนาการผลิตสตรอว์เบอร์รี่ให้ลูกใหญ่และมีรสชาติที่ดีขึ้น" สำหรับผู้ประกอบการหรือผู้ที่สนใจต้นแบบระบบปิดและระบบ IoT เพื่อผลผลิตสตรอว์เบอร์รี่ภายใต้แสงเทียมฯ ทีมวิจัยสามารถเริ่มถ่ายทอดเทคโนโลยีให้อย่างเต็มรูปแบบในเดือนเมษายนนี้ โดยผู้ที่สนใจสามารถติอต่อได้ที่ ผศ. ดร. สิริวัฒน์ สาครวาสี อีเมล tongscpl@yahoo.com หรือเฟสบุ๊คเพจ MJU Smart & Precision Agriculture

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ