กรุงเทพฯ--6 มี.ค.--
ธงชัย ใจดี, บิ๊ก สระบุรี, บัวบาน ผามั่ง คว้ารางวัลยอดเยี่ยม สยามกีฬาอวอร์ดส์ ครั้งที่ 2 ในประเภทอาชีพ, สมัครเล่นชาย และหญิง ตามลำดับ พร้อมเงินรางวัลคนละ 3 แสนบาท ขณะเดียวกัน ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ได้รับโหวตให้เป็นนักกีฬาขวัญใจมหาชน โดย เขาทราย แกแลคซี่ ถูกเลือกให้เข้าสู่ สยามกีฬา ฮอล ออฟ เฟม เป็นคนแรก ด้านรางวัลอื่นๆ อำนาจ รื่นเริง นักมวยดาวรุ่งที่เพิ่งก้าวสู่ทีมชาติได้ปีเดียวคว้ารุกกี้ยอดเยี่ยม, สมาคมมวยสากลสมัคเล่นซิวสมาคมยอดเยี่ยมแห่งปี, เซ ยอง ซอก กุนซือเกาหลี ของเทควันโด ได้โค้ชยอดเยี่ยม, วุฒิเดช ลูกพระบาท ถูกเลือกเป็นนักมวยไทยยอดเยี่ยม,พิเชษฐ์ กรุงเกษ คว้า นักกีฬาคนพิการยอดเยี่ยมเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน, พลตรี จารึก อารีย์ราชการัณย์ ได้เมอริต อวอร์ด จากการจัดงานมอบรางวัลที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ เมื่อพฤหัสที่ 6 มี.ค.51 ท่ามกลางบุคคลในวงการกีฬามาร่วมเป็นเกียรติคับคั่ง
บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต และจำหน่ายหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน รวมถึงสื่อทางด้านกีฬาประเภทต่างๆ มากว่า 20 ปี จัดงานประกาศเกียรติคุณ ยกย่องความสำเร็จของนักกีฬา และสมาคมกีฬาต่างๆ ที่ได้สร้างผลงานทางด้านกีฬาอันยอดเยี่ยม นำชื่อเสียงที่ดีมาสู่ประเทศชาติ "สยามกีฬา อวอร์ดส์ ครั้งที่ 2" ซึ่งเป็นพิธีมอบรางวัลแก่คนในวงการกีฬาที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นแรงผลักดันให้วงการกีฬาไทยมีการพัฒนาคุณภาพ และผลงานของนักกีฬาทัดเทียมและเป็นที่รู้จักในระดับสากล ล่าสุดเมื่วันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงละครอักษรา ชั้น 3 คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ ซ.รางน้ำ ได้มีการจัดงาน การประกาศผล และมอบรางวัล "สยามกีฬา อวอร์ดส์ ครั้งที่ 2" โดยมี นายระวิ โหลทอง ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน), นายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน), นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการ บริษัทสยาม สปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน), นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน), นายวรรคสร โหลทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน),นายโอฬาร เชื้อบาง ผู้จัดการกองบรรณาธิการ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) คอยให้การต้อนรับบรรดาแขกผู้มีเกียรติในแวดวงการกีฬา ท่ามกลางผู้หลักผู้ใหญ่ และนักกีฬา เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น พลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย, พลตรีจารึก อารีย์ราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย, สมบัติ คุรุพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ
สำหรับงานประกาศผล และมอบรางวัลสยามกีฬาอวอร์ดส์ในปีนี้แบ่งสาขารางวัลต่างๆ ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ รางวัลแห่งเกียรติยศ และรางวัลพิเศษ โดยรางวัลแห่งเกียรติยศ ได้แก่ รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมชาย, รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมหญิง และรางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม โดยทั้ง 3 รางวัลจะได้รับเงินรางวัลๆ ละ 300,000 บาท และรางวัลพิเศษ ได้แก่ รางวัลนักกีฬาดาวรุ่งยอดเยี่ยม หรือรุกกี้แห่งปี เป็นรางวัลสำหรับนักกีฬาหน้าใหม่ที่มีผลงานระดับชาติครั้งแรกยอดเยี่ยม โดยไม่จำกัดอายุนักกีฬา, รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม, รางวัลสมาคมกีฬายอดเยี่ยม, รางวัลนักมวยไทยอาชีพยอดเยี่ยม, รางวัลนักกีฬาคนพิการยอดเยี่ยม และรางวัลบุคคลทรงคุณค่าและอุทิศตนแห่งวงการกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี หรือ “Merit Award” โดยทั้ง 6 รางวัลนี้ จะได้รับเงินรางวัลๆ ละ 100,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีรางวัลพิเศษอีก 1 รางวัล คือ รางวัลสุดยอดขวัญใจมหาชน หรือ "POPULAR VOTE" ซึ่งเป็นรางวัลที่ได้รับการตัดสินจากประชาชนทั่วประเทศที่โหวตผ่านทางสื่อในเครือสยามกีฬา จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือจาก i-mobile และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า และนอกจากรางวัลดังกล่าวแล้ว นักกีฬาจากทุกสมาคมกีฬาที่มีผลงานดีเด่นในรอบปียังมีโอกาสได้ลุ้นรางวัล นักกีฬาดีเด่น ของสมาคมกีฬาต่างๆ รวมถึงในปีนี้มีรางวัลพิเศษเพิ่มเข้ามาอีก นั่นคือ รางวัล Hall Of Fame เป็นรางวัลสำหรับนักกีฬาที่มีผลงาน, มีชื่อเสียง, เลิกเล่นกีฬาไปแล้ว 10 ปีขึ้นไป และช่วยเหลือวงการกีฬา
สำหรับผลการประกาศรางวัลสยามกีฬาอวอร์ดส์ ครั้งที่ 2 มีดังต่อไปนี้ รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมชาย ได้แก่ อรรถสิทธิ์ มหิทธิ “บิ๊ก สระบุรี” (สนุกเกอร์), รางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมหญิง ได้แก่ บัวบาน ผามั่ง (กรีฑา), รางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม ได้แก่ ธงชัย ใจดี (กอล์ฟ), รางวัลรุกกี้แห่งปี ได้แก่ อำนาจ รื่นเริง (มวยสากลสมัครเล่น), รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม ได้แก่ เช ยอง ซอก (เทควันโด), รางวัลสมาคมกีฬายอดเยี่ยม ได้แก่ สมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ, รางวัลนักมวยไทยอาชีพยอดเยี่ยม ได้แก่ วุฒิเดช ลูกพระบาท, รางวัลนักกีฬาคนพิการยอดเยี่ยม ได้แก่ พิเชษฐ์ กรุงเกตุ (วีลแชร์เรซซิ่ง), รางวัลบุคคลทรงคุณค่า Merit Award ได้แก่ พลตรี จารึก อารีราชการัณย์, รางวัลนักกีฬาขวัญใจมหาชน หรือ "POPULAR VOTE" ได้แก่ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน และรางวัล “ฮอล ออฟ เฟม” (Hall of Fame) ได้แก่ สุระ แสนคำ “เขาทราย แกแล็คซี่”
ส่วนรางวัลนักกีฬาดีเด่นของสมาคมกีฬา มีทั้งสิ้น 20 สมาคมกีฬา รวมทั้งสิ้น จำนวน 21 คน ดังนี้ 1. บุญศักดิ์ พลสนะ จาก สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 2. กิตติพงษ์ ทวินันท์ จาก สมาคมยิมนาสติกแห่งประเทศไทย, 3. ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง จาก สมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศไทย, 4. บัวบาน ผามั่ง จาก สมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 5. ชัชวาล ขาวละออ จาก สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย, 6. สุนทรี รูปสูง จาก สมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย, 7. เปรมศิริ บุญพิทักษ์ จาก สมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย, 8. พิพัฒน์พงษ์ แนวสุข จาก สมาคมกอล์ฟแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 9. ตะวัน ศรีปาน จาก สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 10. มนฤดี ชาภูคำ จาก สมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 11. ณีนา ลิเกิ้น ล่ำซำ จาก สมาคมขี่ม้าแห่งประเทศไทย, 12. อรรถสิทธิ์ มหิทธิ "บิ๊ก สระบุรี" จาก สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย, 13. วัชรากรณ์ เสือสืบพันธุ์ และ มล.วราภา ชุมพล จาก สมาคมกีฬาลีลาศแห่งประเทศไทย, 14. ญาณพล ลาภอาภารัตน์ จาก สมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย, 15. สิทธิ เจริญฤทธิ์ จาก สมาคมเพาะกายสมัครเล่นแห่งประเทศไทย, 16. ภาวัช จารุนภัทร จาก สมาคมรักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 17. อัยยวัฒน์ รักศรีอักษร จาก สมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย, 18. สมจิตร จงจอหอ จาก สมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 19. พิเชษฐ กรุงเกตุ จาก สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 20. ธงชัย ใจดี จาก สมาคมกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, 21. สนฉัตร และ สรรค์ชัย รติวัฒน์ จาก ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์