กรุงเทพฯ--6 ก.พ.--กรมวิทยาศาสตร์บริการ
กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดประชุมหารือแนวทางการขับเคลื่อนแผนงานยุวชนสร้างชาติ โดยมี ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. เป็นประธาน ผู้เข้าร่วมประชุมได้แก่ คณะกรรมการบริหารแผนงานยุวชนสร้างชาติ คณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการบริหารแผนงานยุวชนสร้างชาติ ผู้แทนสถาบันอุดมศึกษา และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับแนวทางการขับเคลื่อนยุวชนสร้างชาติ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์วิจิตร ศรีสอ้าน ชั้น 5 อาคารอุดมศึกษา 1 สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยฯ
นางสาวนิสากร จึงเจริญธรรม อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการบัณฑิตอาสา ได้กล่าวบรรยายในหัวข้อการดำเนินงานโครงการบัณฑิตอาสาทั้งในเรื่องของข้อกำหนด การคัดเลือก กระบวนการดำเนินงานและบริหารจัดการ โดยโครงการบัณฑิตอาสามีเป้าหมายพัฒนาบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 5 ปี ตั้งเป้าหมายไว้จำนวนปีละ 50,000 คน ให้มีการพัฒนาทักษะทั้ง Up-skill หรือ Re-Skill และ Soft skills สำหรับศตวรรษที่ 21 และพร้อมลงพื้นที่ในชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนเรื้อรังร่วมกับชุมชนท้องถิ่น มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 5,000 ชุมชน โดยสถาบันอุดมศึกษามีเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการพัฒนาชุมชนจำนวน 5,000 ชุมชน
ลักษณะโครงสร้างการทำงานของโครงการบัณฑิตอาสา แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Program Manager (PM) และ Execution Body (EB) โดย PM มีบทบาทในการจัดวิทยากร ร่วมวิเคราะห์แนวทางการแก้ไขปัญหา สนับสนุนเทคโนโลยี และร่วมเป็นที่ปรึกษา ในขณะที่ EB มีบทบาทในการบริหารจัดการสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ
หน่วยงานที่สามารถเป็น EB ได้ จะต้องมีคุณลักษณะ 7 ประการดังนี้ 1) สถานภาพเป็นนิติบุคคล 2) มีเครือข่ายในพื้นที่ปฏิบัติการในระดับตำบลขึ้นไป 3) มีบุคลากรที่รับผิดชอบโครงการอย่างชัดเจนและมีความพร้อมในการสรรหาบัณฑิตที่จะเข้าร่วมโครงการ 4) มีระบบบริหารจัดการเทคนิคและแนวทางในการดำเนินงานร่วมกับชุมชนที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล 5) มีประสบการณ์ในการจัดฝึกอบรม (Trainer)ในลักษณะให้คำปรึกษา แนะนำ 6) มีศักยภาพในการสร้างและส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการใหม่ และ 7) มีความสามารถในการพัฒนาคนให้มีทักษะด้านคนและสังคม (Soft Skills) ในศตวรรษที่ 21 โดยหน่วยงานที่ต้องการเป็น EB สามารถยื่นความจำนง และเสนอโครงการตามแบบฟอร์ม ภายในวันอังคารที่ 10 มีนาคม 2563