![JCK ปิดดีลขายที่ดินให้นักธุรกิจยุโรปมูลค่า 138 ลบ.คาดรับรู้ Q3/63 ไทยเสน่ห์แรงทุนนอกรุมจีบเห็นสัญญาณไหลเข้าลงทุนหลังEECชัดเจน มั่นใจยอดขายที่ดินปีนี้ทำได้ตามเป้า 200-300ไร่ รายได้รวม 3 พันลบ.]()
กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--พาร์ทูโกล
JCKอวดผลงานสุดเจ๋ง!!! ปิดดีลขายที่ดินในนิคม
อุตสาหกรรมTFD เฟส 2 มูลค่า 138 ล้านบาท ให้บริษัทบรรจุภัณฑ์สัญชาติ
ยุโรป คาดรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 3 นี้ มั่นใจยอดขายทำได้ตามเป้าหมาย 200-300 ไร่ รายได้รวมแตะ 3,000 ล้านบาท เหตุไทยเสน่ห์แรงในสายตาทุนต่างชาติ หลังแผนผังEECมีความชัดเจน
นาย
อภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ
JCK ผู้ประกอบการรายใหญ่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินในนิคม
อุตสาหกรรมTFDเฟส 2 มูลค่า 138 ล้านบาท ให้กับบริษัทบรรจุภัณฑ์จากประเทศใน
ยุโรป คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 3 ของปี 2563 นี้ นอกเหนือไปจากนี้พบว่ามีทุนจากต่างประเทศ ได้แสดงความสนใจขอเยี่ยมชมพื้นที่ เนื่องจากเห็นว่าที่ดินในนิคม
อุตสาหกรรมดังกล่าวอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ทำให้ได้รับเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์การลงทุนที่ดี ปัจจุบันนี้ พบว่ามีลูกค้าแสดงความสนใจจะซื้อที่ดินรวมจำนวนราว 60-70 ไร่
"ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจในประเทศเติบโตถดถอย แต่ภาพรวมธุรกิจของบริษัทโดยเฉพาะการขายที่ดินในพื้นที่นิคม
อุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มที่ดี คาดว่าสืบเนื่องจากที่ดินในนิคม
อุตสาหกรรมของบริษัทฯอยู่ในแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ทำให้ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนจากประเทศจีนเริ่มไหลออกไปลงทุนต่างประเทศ ภายหลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา และมองไทยเป็นเป้าหมายการลงทุนในลำดับต้น ๆ นอกจากนี้ บริษัทฯเตรียมเดินทางไปกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เพื่อพบปะกับ
นักธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากโครงการEEC มีความชัดเจน"นายอภิชัย กล่าว
บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าด้วยปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้เป้าหมายการขายที่ดินในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 200-300 ไร่ และรายได้รวมอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมในธุรกิจอื่น ๆ ยังเป็นไปในทิศทางที่ดี โครงการคอนโดมิเนียมอาร์ติซาน รัชดา จำนวน 4 อาคาร มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรจากประเทศจีน คาดว่าจะเริ่มโอนและรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 ของปีนี้
ขณะที่ธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า ได้ดำเนินการพัฒนาภายใต้โครงการ "The One นครพนม" ซึ่งบริษัทฯ ได้รับสิทธิการเช่าในที่ดินจำนวน 1,300 ไร่ เป็นระยะเวลา 50 ปีตั้งอยู่บนพื้นที่จังหวัดนครพนม ใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย - ลาว นั้น พบว่ามีนักลงทุนแสดงความสนใจ