ผถห.NEX โหวตหนุนเพิ่มทุน 394 ล้านหุ้น ขาย RO 4:1 ราคา 2.50 บ. แจกวอร์แรนต์ฟรี 2.5 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ นำเงินเพิ่มศักยภาพด้านการลงทุน-หนุนฐานะการเงินแกร่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 12, 2020 11:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--เน็กซ์ พอยท์ ผู้ถือหุ้น บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) ไฟเขียวเพิ่มทุน 394 ล้านหุ้น ขาย RO อัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคา 2.50 บาท พร้อมแจกวอร์แรนต์ฟรี 2.5 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ "เอนก ปิ่นวนิชย์กุล" ระบุการเพิ่มทุนครั้งนี้ ช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการลงทุนในอนาคต หนุนรายได้และฐานะทางการเงินให้มั่นคงมากยิ่งขึ้น นายเอนก ปิ่นวนิชย์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) (NEX) เปิดเผยถึงผลการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2563 ว่า มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯจำนวน 394,007,479 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 464,009,972 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 858,017,451 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 394,007,479 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท รวมทั้งสิ้น 394,007,479 บาท โดยได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 116,002,493 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ในอัตราส่วนการจัดสรรหุ้น 4 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท และกำหนดระยะเวลาเสนอขายตั้งแต่วันที่ 11-17 มีนาคม 2563 และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 232,004,986 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ NEX-W1 ในอัตราส่วน 2.5 หุ้นสามัญเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ NEX-W1 หน่วย โดยมีราคาเสนอขายที่หน่วยละ 0 บาท โดย NEX-W1 จะมีอายุการใช้สิทธิเป็นระยะเวลา 3 ปี นอกจากนี้ ยังอนุมัติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 46,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นร้อยละ 9.91 ของทุนชำระแล้ว เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) "ประโยชน์ที่บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับจากการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ คือ เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต ทั้งด้านการดำเนินงานและด้านเงินทุน ทำให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องมากขึ้น และส่งผลให้ผลการดำเนินงานขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้มีรายได้และฐานะการเงินที่มั่นคง อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนทางการเงินในระยะยาวลงได้ ทำให้ศักยภาพในการทำกำไรของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น "นายเอนกกล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ