![เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย โชว์ผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1/2563 แข็งแกร่ง รายได้อสังหากลุ่มอุตสาหกรรม และ อาคารสำนักงานเติบโตต่อเนื่อง]()
กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--ไฟว์ ดับบลิว แอนด์ เอช คอมมิวนิเคชั่น
- FPT ประกาศภาพรวมธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์อุตสาหกรรมเติบโตต่อเนื่อง หลังเดินหน้าปิดดีลโครงการคลังสินค้าแบบ Build-to-Suit กับบริษัทชั้นนำจำนวนมาก เผยโรงงานและคลังสินค้าแบบ Ready-Built ยังคงมีความต้องการสูงขึ้นต่อเนื่อง จ่อบุ๊คกำไรขายที่ดินไมเดีย และขายทรัพย์ให้แก่กองทรัสต์ FTREIT ในด้านธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์รายได้จากค่าเช่าอาคารสำนักงานยังเติบโตต่อเนื่อง
- อัตราการเช่าโรงงานและคลังสินค้าภายใต้การบริหารของ FPT เติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ร้อยละ 82 จากดีมานด์โรงงานและคลังสินค้าบนทำเลยุทธศาสตร์
- FPT ตั้งเป้าขายสินทรัพย์เพื่อ
อุตสาหกรรมรวมมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาทให้แก่กองทรัสต์ FTREIT ภายในปีงบประมาณ 2563 นี้
- บริษัทฯ แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/2563 รายได้รวมทั้งสิ้น 4,609 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 308 ล้านบาท จากรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่เพิ่มสูงขึ้นของกลุ่มธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์เพื่อ
อุตสาหกรรมและ
อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์
บริษัท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ "FPT" ผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มด้าน
อสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2563 เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์เพื่อ
อุตสาหกรรม และธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์
นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า "ธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์เพื่อ
อุตสาหกรรมของบริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน FPT มีอัตราการเช่าพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 82 นอกจากนี้ ยังมีความต้องการคลังสินค้าแบบ Build-to-Suit ทั้งจากการขยายธุรกิจของกลุ่มผู้เช่าเดิม และ ดีมานด์ใหม่จากกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่หมุนเวียนเร็ว (Fast Moving Consumer Goods – FMCG) อีคอมเมิร์ซ และ
อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีบทบาทในการขับเคลื่อนธุรกิจในช่วงนี้ นอกจากนั้น ในปีนี้ บริษัทฯ มั่นใจผลการดำเนินงานตามเป้าโดยเฉพาะการพัฒนาโครงการ Build-to-Suit รวมทั้งสิ้น 150,000 ตารางเมตร"
นอกจากนี้ FPT ยังเตรียมบุ๊คกำไรจากการขายที่ดินเพื่อการ
อุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซีให้แก่กลุ่มบริษัท ไมเดีย จากประเทศจีน เพื่อพัฒนาโรงงาน
อุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดของไมเดียนอกประเทศจีน ทั้งนี้ FPT เตรียมเปิดที่ดินเพิ่มเติมในบริเวณใกล้เคียง พร้อมรองรับความต้องการของซัพพลายเชนของกลุ่มไมเดียที่จะย้ายฐานการผลิตมาประเทศไทยอีกจำนวนมาก และสำหรับปีงบประมาณ 2563 นี้ บริษัทฯ ยังตั้งเป้าขายสินทรัพย์ให้แก่กองทรัสต์ FTREIT มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท
กลุ่มธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์เพื่อ
อุตสาหกรรม โชว์ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 (ตุลาคม - ธันวาคม 2562) แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการรวม 442 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 4.60 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่อาคารโรงงานสูงสุดในรอบ 5 ปี จากร้อยละ 72 ในปีที่ผ่านมา เป็นร้อยละ 75 และ มีอัตราการเช่าพื้นที่คลังสินค้าสูงขึ้นอย่างน่าพอใจ จากร้อยละ 81ในปีก่อน เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 86 รับอานิสงค์จากการพัฒนาพื้นที่อีอีซี และการโยกย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนในช่วงที่ผ่านมา
กลุ่มธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย สร้างรายได้รวม 3,546 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2563 ปรับตัวลงเล็กน้อย ร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากภาวะตลาดภายหลังมาตรการคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัย LTV อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบอาจคลี่คลายลงหลังจากการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา โดยในเดือนธันวาคม 2562 โกลเด้นแลนด์มียอดขายพรีเซลล์รวมมูลค่า 7,100 ล้านบาท จากโครงการที่ดำเนินการอยู่ 58 โครงการ และมียอดบ้านที่ได้รับการจองแล้วและรอโอน อยู่ที่ 3,654 ล้านบาท
กลุ่มธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.34 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นของอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ และโครงการสามย่านมิตรทาวน์
โดยงบการเงินรวมของ FPT สำหรับไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 มีรายได้รวม 4,609 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 308 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จะไม่มีรายการขายทรัพย์เข้ากองทรัสต์ ดังนั้น หลังปรับรายการขายทรัพย์ดังกล่าวในปีที่แล้วเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1/2563 แล้ว รายได้รวมจะลดลงเพียงเล็กน้อยที่ 3.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งนี้จากการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัย
"ไตรมาส 1/2563 นับเป็นการเริ่มต้นปี 2563 ที่แข็งแกร่ง ด้วยผลการดำเนินงานเกินความคาดหมาย โดย FPT จะเดินหน้าพัฒนาโครงการมูลค่าสูงหลากหลายโครงการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมองหาโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติม และสร้างสรรค์มูลค่าเพิ่มทางธุรกิจร่วมกันกับโกลเด้นแลนด์ ซึ่งจะสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท" นายโสภณ กล่าว
เกี่ยวกับ บริษัท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
บริษัท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ "FPT" เป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ FPT ผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มด้าน
อสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศไทยที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนา
อสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท ปัจจุบัน FPT เป็นหนึ่งในบริษัทผู้พัฒนา
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการ
อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยภายหลังจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ "GOLD" ด้วยจำนวนหุ้นรวมทั้งสิ้นร้อยละ 95 ทำให้ FPT เป็นผู้นำในการพัฒนา
อสังหาริมทรัพย์ที่มีความหลากหลาย ครอบคลุม
อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย (Residential) และ พาณิชย กรรมและโรงแรม (Commercial and Hospitality) นอกจากนี้ FPT ยังเป็นผู้สนับสนุนและผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนใน
อสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า
อสังหาริมทรัพย์เพื่อ
อุตสาหกรรมเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ FTREIT (ซึ่งปัจจุบันเป็นกองทรัสต์ฯ
อุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย) โดย GOLD เป็นผู้สนับสนุนและผู้จัดการทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่า
อสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (GVREIT) เพื่อการลงทุนใน
อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชยกรรม ทั้งนี้ FPT, GOLD, FTREIT และ GVREIT เป็นบริษัทและกองทรัสต์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู www.frasersproperty.co.th
เกี่ยวกับบริษัท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด ("
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้" หรือ "กลุ่มบริษัท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้") เป็นบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ (SGX-ST) ซึ่งมีแนวทางการดำเนินธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์ ทั้งการเป็นเจ้าของ ผู้พัฒนา และผู้บริหารจัดการ
อสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทแบบครบวงจร โดยมีมูลค่าทรัพย์สินรวมประมาณ 38.8 พันล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562)
สินทรัพย์ของ
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ครอบคลุม
อสังหาริมทรัพย์ 5 ประเภท ประกอบด้วย
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย
อสังหาริมทรัพย์ประเภทศูนย์การค้าและพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมและโรงแรม รวมถึงบิสซิเนส พาร์ค และ
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการ
อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ กลุ่มธุรกิจดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย ยุโรป และจีน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเป็นเจ้าของ และ/หรือเป็นผู้บริหารจัดการเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์และโรงแรมมากกว่า 70 เมือง ทั้งในทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป ภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกา ทั้งนี้กลุ่มบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นเดียวกันในการส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่า และน่าจดจำให้แก่ลูกค้า และผู้ถือหุ้น โดยอาศัยความรู้ และความสามารถจากทุกตลาดและภาค
อสังหาริมทรัพย์ เพื่อส่งมอบคุณค่าในสินทรัพย์ที่หลากหลายที่มีอยู่
นอกจากนี้
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ยังเป็นผู้สนับสนุนกองทรัสต์เพื่อการลงทุนใน
อสังหาริมทรัพย์จำนวน 3 กอง และกองทรัสต์ สเตเปิ้ลอีกจำนวน 1 กอง (Stapled Trust) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ ได้แก่ เฟรเซอร์ส เซ็นเตอร์พ้อยท์ ทรัสต์ (Frasers Centrepoint Trust) เฟรเซอร์ส คอมเมอร์เชียล ทรัสต์ (Frasers Commercial Trust) และเฟรเซอร์ส โลจิสติกส์ & อินดัสเทรียล ทรัสต์ (Frasers Logistics & Industrial Trust) ซึ่งเป็นกองทรัสต์ที่มุ่งเน้น
อสังหาริมทรัพย์ศูนย์การค้า อาคารพาณิชย์ และโลจิสติกส์และ
อุตสาหกรรมตามลำดับ ในขณะที่ เฟรเซอร์ส ฮอสพิทัลลิตี้ ทรัสต์ (Frasers Hospitality Trust) (ซึ่งเป็น Stapled Trust ประกอบไปด้วย เฟรเซอร์ส ฮอสพิทัลลิตี้ เรียล เอสเตท อินเวสต์เม้นท์ ทรัสต์ (Frasers Hospitality Real Estate Investment Trust) และ เฟรเซอร์ส ฮอสพิทัลลิตี้ บิซิเนส ทรัสต์ (Frasers Hospitality Business Trust)) เป็นกองทรัสต์ที่มุ่งเน้น
อสังหาริมทรัพย์ด้านฮอสพิทัลลิตี้ นอกจากนี้
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) ยังเป็นผู้สนับสนุนและผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนใน
อสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า
อสังหาริมทรัพย์เพื่อ
อุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) เป็นกองทรัสต์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (GOLD) ผู้สนับสนุน ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่า
อสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (GVREIT ) เพื่อลงทุนใน
อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชยกรรม
กลุ่มบริษัท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ มุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้แก่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ โดยบุคลากรที่มีคุณภาพ พร้อมด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินงาน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการของบริษัทฯ
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู www.frasersproperty.com