กรุงเทพฯ--13 ก.พ.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ในระยะนี้พื้นที่จังหวัดภาคเหนือมักประสบปัญหาการเกิดไฟป่า เนื่องจากเป็นช่วงที่ประเทศไทยมีจุดความร้อน (Hotspot) เป็นจำนวนมาก ประกอบกับสภาพอากาศแห้ง ต้นไม้ผลัดใบ หญ้าแห้งตาย และลมพัดแรง เมื่อเกิดเพลิงไหม้ ทำให้ไฟลุกลามรวดเร็วและยากต่อการควบคุม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรรู้เกี่ยวกับไฟป่าและข้อควรปฏิบัติในการป้องกันไฟป่าดังนี้
สาเหตุของการเกิดไฟป่า
- ปัจจัยทางธรรมชาติ อาทิ ฟ้าผ่า กิ่งไม้เสียดสีกัน แสงแดดตกกระทบผลึกหิน ปฏิกิริยาในป่าพรุ
- การกระทำของมนุษย์ อาทิ การเผาไร่เตรียมพื้นที่เพาะปลูก การเก็บหาของป่าและล่าสัตว์โดยจุดไฟหรือรมควัน การทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพงหญ้าแห้ง
การป้องกันไฟป่า
- กำจัดวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิง
* เก็บกวาดใบไม้ กิ่งไม้ หรือหญ้าแห้ง มิให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อเพลิง
* ใช้วิธีฝังกลบขยะและไถกลบเศษวัชพืชแทนการเผา
- งดเว้นการประกอบกิจกรรมเกี่ยวกับไฟ
* ไม่เผาเศษวัชพืชหรือหญ้าแห้ง เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก
* ไม่เผาหญ้าแห้งเพื่อทำทางเดินในป่า
* ไม่ทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพงหญ้าแห้ง หรือบริเวณที่มีวัสดุติดไฟง่าย
* ไม่หาของป่าหรือล่าสัตว์ โดยการจุดไฟหรือรมควัน
- หลีกเลี่ยงการจุดไฟหรือก่อกองไฟในพื้นที่ป่าไม้
* ไม่ก่อกองไฟใกล้พงหญ้าแห้ง หรือบริเวณที่มีวัสดุติดไฟง่าย
* หากก่อกองไฟ ควรดูแลอย่างใกล้ชิด ใช้น้ำราดดับไฟให้สนิททุกครั้ง
- สร้างแนวกันไฟป้องกันไฟลุกลาม
* จัดทำคันดินหรือขุดร่องดินบริเวณรอบบ้านและพื้นที่การเกษตร
* ตรวจสอบแนวกันไฟไม่ให้มีต้นไม้พาดขวาง จะช่วยสกัดมิให้เพลิงลุกลามและขยายวงกว้าง
นอกจากนี้ ประชาชนที่อาศัยในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศช่วงระยะเวลาห้ามเผา โดยเฉพาะพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ควรปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยป้องกันการเกิดไฟป่า และลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศได้อีกทางหนึ่ง