กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ หัวหน้าที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (Mr.Nattakrit Laotaweesap, Head Of Wealth Advisory of TISCO Bank Public Company Limited) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ในจีนจะกดดันการเติบโตของจีดีพีจีนในไตรมาส 1/2563 ให้เติบโตลดลง โดย Bloomberg ประเมินว่า จีดีพีไตรมาส 1/2563 ของจีนจะขยายตัวเพียง 4.5% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 5.9% ซึ่งนับเป็นการขยายตัวรายไตรมาสที่ต่ำสุดในรอบ 28 ปี ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงแรงรับข่าวดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม มองว่าการย่อตัวลงในครั้งนี้ของหุ้นจีนจะเป็นโอกาสที่ดีในการทยอยเข้าซื้อ เพราะหากพิจารณาจากข้อมูลย้อนหลังในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคซาร์สที่ภายหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ชะลอตัวลงตลาดหุ้นต่างๆ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงรับข่าวทันที และปัจจุบันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ก็มีอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่องจากช่วงปลายเดือนมกราคม ซึ่งหากตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่มีแนวโน้มชะลอตัวลงเรื่อยๆ ก็น่าจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวกลับมา
อีกด้าน ธนาคารกลางจีน (PBoC) ยังได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านข้อตกลง Reverse Repo มูลค่ารวมกว่า 1.2 ล้านล้านหยวน ซึ่งเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องรายวันสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2547 รวมถึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระยะ 7 วัน และ 14 วัน ลง -10bps. เป็น 2.4% และ 2.55% ตามลำดับ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนที่จะทำให้ตลาดหุ้นจีนกลับมาปรับตัวขึ้นได้
"แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะสร้างความกังวลให้กับตลาดหุ้นจีน แต่คาดว่าเป็นเพียงปัจจัยที่กระทบเศรษฐกิจไม่นานนัก หากทางการจีนเริ่มสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ก็จะส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต ดังนั้น จึงมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนหุ้นจีนช่วงที่ตลาดปรับฐานลงมา โดยเฉพาะกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นจีนกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงและได้รับประโยชน์จากวิกฤตไวรัสโคโรนา" นายณัฐกฤติกล่าว
สำหรับอุตสาหกรรมที่น่าจะได้รับประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในครั้งนี้น่าจะเป็นกลุ่มเทคโนโลยีในจีน โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ยักษ์ใหญ่ในจีน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาคนจีนเลือกอยู่ในบ้านเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง โดยแอปพลิเคชันที่ได้รับประโยชน์ในครั้งนี้ ได้แก่ แอปพลิเคชันจัดส่งอาหาร Meituan ในเครือ Alibaba, การนัดพบแพทย์ในจีนผ่านแอปพลิเคชันที่ถูกสร้างขึ้นมาร่วมกันระหว่าง Baidu และองค์กรทางการแพทย์ของปักกิ่ง เพื่อตรวจการติดเชื้อไวรัสโคโรนาเบื้องต้น รวมถึงการใช้ WeChat ของ Tencent เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทั้งนี้ Bloomberg ได้คาดการณ์กำไรของหุ้นกลุ่มธุรกิจออนไลน์ขนาดใหญ่ในจีนปี 2020 เช่น Alibaba, Tencent และ Baidu ว่าจะมีแนวโน้มเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่องสูงถึง 158%, 22%, และ 26% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังมีอุตสาหกรรมอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจคือ กลุ่มเฮลธ์แคร์ที่มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในระยะยาว อาทิ บริษัท Jiangsu Wuzhong ผู้ผลิตยา Arbidol ที่ใช้ในการรักษาโรคไข้หวัด และบริษัท Porton Pharma ผู้จัดหาวัตถุดิบและเป็นตัวกลางในการผลิต Darunavir ซึ่งเป็นยารักษาโรค HIV ในจีน โดยยาเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องในการรักษาไวรัสโคโรนาก็ส่งผลให้ราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น