!['ประภัตร’ ไฟเขียว ตั้ง คกก.ขับเคลื่อนพัฒนาข้าวไทยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เร่งสำรวจเมล็ดพันธุ์-พื้นที่ หวังดันชาวนาปลูกข้าวพื้นนุ่ม ผลผลิตสูง ต้นทุนต่ำ เจาะตลาดต่างประเทศ]()
กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--กรมการข้าว
'ประภัตร' ไฟเขียว ตั้ง
คกก.ขับเคลื่อนพัฒนา
ข้าวไทยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เร่งสำรวจเมล็ดพันธุ์-พื้นที่ หวังดันชาวนาปลูกข้าวพื้นนุ่ม ผลผลิตสูง ต้นทุนต่ำ เจาะตลาดต่างประเทศ
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 นาย
ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการขับเคลื่อนพัฒนา
ข้าวไทยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยมีนายสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ อธิบดีกรมการข้าว นางสาวนนทิชา วรรณสว่าง รองอธิบดีกรมการข้าว และคณะทำงานผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งผู้ประกอบการส่งออก โรงสี และผู้นำชาวนา เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ ณ ห้องประชุม 123
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยนาย
ประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม ว่า ตามที่ได้มีนโยบายในการพัฒนา
ข้าวไทยให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยได้มอบหมายให้กรมการข้าวดำเนินการปรับปรุงคุณภาพ
ข้าวไทย รวมทั้งวิจัยพันธุ์ข้าวให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและตรงตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 63 กรมการข้าวได้หารือร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ และสมาคมผู้ส่งออก
ข้าวไทย เพื่อหาแนวทางการพัฒนาพันธุ์
ข้าวไทย และแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของ
ข้าวไทย
ดังนั้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนและแก้ไขอย่างเป็นระบบ นำไปสู่การแข่งขันของตลาดโลก จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนพัฒนา
ข้าวไทยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยมี
รัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นาย
ประภัตร โพธสุธน) เป็นประธาน และอธิบดีกรมการข้าว เป็นรองประธานกรรมการ ตลอดจนกรมชลประทาน กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน สมาคมผู้ส่งออก
ข้าวไทย และสมาคมโรงสี
ข้าวไทย เป็นกรรมการ มีหน้าที่กำหนดนโยบาย แผนงาน และมาตรการเกี่ยวกับการส่งเสริม สนับสนุนการศึกษาวิจัย และพิจารณาการผลิตข้าวเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด รวมทั้งแก้ไขปัญหาของ
ข้าวไทยทั้งภาคการผลิตและการตลาด รวมทั้งติดตามตามและกำกับดูแล ต่อไป
"การประชุมครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกันทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้สั่งการให้เร่งเพิ่มศักยภาพและส่งเสริมชาวนาปลูกข้าวนุ่มซึ่งให้ผลผลิตสูงและเป็นที่นิยมของผู้บริโภค ต้นทุนต่ำ อาทิ กข77, กข79 และ กข81 เป็นต้น โดยให้กรมการข้าวจำแนกพันธุ์ข้าวนุ่มทุกชนิดที่ขึ้นทะเบียนรับรอง รวมถึงพันธุ์ที่กำลังทดสอบทุกชนิด รวมถึงรายละเอียด คุณสมบัติการปลูก ผลผลิต คุณภาพอย่างไร และสำรวจเมล็ดพันธุ์เพียงพอมีความพร้อมที่จะปลูกมากน้อยแค่ไหน และให้กรมส่งเสริมการเกษตรสำรวจพื้นที่เพาะปลูกที่ขึ้นทะเบียนแต่ละจังหวัด เพื่อดูความเหมาะสมในการส่งเสริมการปลูกข้าวนุ่มแต่ละชนิดในพื้นที่ต่างๆ โดยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด" นายประภัตร กล่าว
นายประภัตร กล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาการผลิตและการตลาดข้าวที่ได้หารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มอบหมายให้กรมการข้าวรับข้อมูลการส่งออกข้าวจากสมาคมผู้ส่งออก
ข้าวไทย และกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อนำไปปรับใช้ในการผลิตข้าวให้ตรงกับความต้องการของตลาดโลก รวมทั้ง ในปีงบประมาณ 2564 กองวิจัยและพัฒนาข้าวได้จัดทำข้อเสนอขอสนับสนุนงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาข้าวจำนวน 12 แผนงาน งบประมาณ 362 ล้านบาท ผ่านแหล่งเงินทุนจาก สกสว. นอกจากนี้จัดให้มีการประกวดข้าวในระดับประเทศ เพื่อพิจารณาว่ามีข้าวพันธุ์ใดบ้างที่มีศักยภาพเหมาะสมต่อการสนับสนุนเพื่อการส่งออก โดยพิจารณาหลักเกณฑ์ให้สอดคล้องกับการประกวดข้าวโลก ตลอดจนให้กรมการข้าวและกรมส่งเสริมการเกษตรพิจารณาพันธุ์ข้าวและจัดทำแผนการปลูกข้าวที่จะแนะนำให้เกษตรกรปลูกให้สอดคล้องกับการตลาด
ทั้งนี้ การพัฒนาพันธุ์ข้าวของกรมการข้าวที่ได้มีการรับรองพันธุ์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2478-2562 ได้รับรองพันธุ์ข้าวมาแล้ว จำนวน 154 พันธุ์ และในปี 2563 เตรียมเสนอรับรองข้าวสายพันธุ์ดีเด่น 2 ชนิด ได้แก่ 1. สายพันธุ์ PSL07023-CNT-18-2-1-3 ลักษณะเป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 110-115 วัน (หว่านน้ำตม) 115-120 วัน (ปักดำ) ความสูง 104 ซม. ต้นแข็ง ไม่หักล้ม ทนทานต่อสภาพอากาศเย็น ให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 862 กก./ไร่ ศักยภาพให้ผลผลิตสูงถึง 1,400 กก./ไร่ ค่อนข้างต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และโรคไหม้ เหมาะสำหรับทำข้าวนึ่ง และผลิตภัณฑ์เส้น และ 2. สายพันธุ์ PTT03019-18-2-7-4 ลักษณะเป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง อายุเก็บเกี่ยว นาหว่าน 114-123 วัน ปักดำ 116-128 วัน ทรงกอตั้ง ต้นแข็ง ความสูง 125 ซม. มีศักยภาพการให้ผลผลิตสูงถึง 1,053 กก./ไร่ ข้าวเต็มเมล็ดและต้นข้าว 50.7 % ข้าวสุกนุ่มค่อนข้างเหนียว และไม่มีกลิ่นหอม
![]()