กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
- บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต (Citi Ready Credit) บัตรเดียวจบครบทุกความต้องการเรื่องเงินสด เบิกถอนเงินสดฟรีค่าธรรมเนียม พร้อมรับสิทธิประโยชน์จากร้านค้าชั้นนำมากมาย
ธนาคารซิตี้แบงก์ เผยโฉมรูปลักษณ์ใหม่ "บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต" (Citi Ready Credit) ที่ได้ถูกออกแบบให้มีความทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงความเรียบง่าย อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบัตรเอาไว้ โดยซิตี้ เรดดี้เครดิตเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของซิตี้แบงก์ ที่มาตอบโจทย์ครบทุกความต้องการเรื่องเงินสด ให้ลูกค้าเบิกเงินสดได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการผ่านหลากหลายช่องทาง อาทิ การกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศ รวมถึงต่างประเทศโดยที่ไม่เสียค่าธรรมเนียม การรับเงินก้อนโอนเข้าบัญชีธนาคารภายใน 1 วันทำการ แล้วเลือกแบ่งจ่ายตามยอดขั้นต่ำ หรือแบ่งชำระเป็นรายเดือน ซึ่งทำรายการได้ง่ายๆ ผ่านช่องทางซิตี้แบงก์ ออนไลน์ ซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชั่น หรือผ่านทางเจ้าหน้าที่โดยช่องทางโทรศัพท์ โดยในปี 2563 นี้ยังมาพร้อมสิทธิประโยชน์พิเศษมากมายสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น การผ่อนชำระสินค้าหรือบริการผ่านระบบแบ่งจ่ายรายเดือน Citi PayLite เลือกผ่อนชำระ 0% หรือดอกเบี้ยสุดพิเศษนานสูงสุดถึง 48 เดือน รวมถึงรับสิทธิและบริการพิเศษด้านไลฟ์สไตล์หลากหลายในช่วงเวลาที่มีโปรโมชั่น หรือในเดือนเกิด ตลอดจนรับเครดิตเงินคืน เป็นต้น ทั้งหมดนี้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการบริหารเงินสดในทุกโอกาส ให้ทุกความต้องการเป็นจริงได สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ www.citibank.co.th/ready-credit/citi-ready-credit
มร. ซานดีพ บาตระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคลธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารซิตี้แบงก์ ได้มีการปรับรูปลักษณ์บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต แบบใหม่ โดยมีการดีไซน์ตัวบัตรให้มีความทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงความเรียบง่าย อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของบัตรเอาไว้ ซึ่ง "บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต" เป็นหนึ่งในบริการจากซิตี้แบงก์ ที่มาตอบสนองครบทุกความต้องการเรื่องเงินสด เปลี่ยนวงเงินให้เป็นเงินสดได้ง่าย ๆ ให้ทุกความต้องการเป็นจริง สำหรับลูกค้าซิตี้แบงก์ที่มีความต้องการใช้เงินสดหรือเงินก้อน โดยบัตรดังกล่าวสามารถใช้เบิกเงินสดได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการ ผ่านการทำธุรกรรมทางการเงินหลากหลายช่องทาง อาทิ การกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศโดยที่ไม่เสียค่าธรรมเนียม รวดเร็วด้วยการเบิกเงินก้อนผ่านระบบซิตี้โฟน แบงก์กิ้ง หรือสั่งผ่านซิตี้แบงก์ ออนไลน์ หรือซิตี้ โมบายล์ แอป โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในประเทศไทยภายใน 1 วันทำการ โดยไม่ต้องยื่นเอกสารใหม่ อีกทั้งเพิ่มความมั่นใจปลอดภัยทุกการใช้จ่ายที่มากขึ้นด้วยเทคโนโลยีชิปการ์ด ทั้งหมดนี้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้เงินในทุกโอกาส
มร. ซานดีพ กล่าวต่อว่า นอกจากความคล่องตัวที่มอบให้ลูกค้าในการบริหารจัดการสภาพคล่องด้านเงินสดแล้ว "บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต" ยังมาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การผ่อนชำระสินค้าผ่านระบบแบ่งจ่ายรายเดือน "ซิตี้ เพย์ไลท์" (Citi PayLite) เลือกผ่อนชำระ 0% หรือดอกเบี้ยสุดพิเศษนานสูงสุดถึง 48 เดือน อีกทั้งลูกค้ายังสามารถรับสิทธิประโยชน์ ของกำนัล และบริการพิเศษด้านไลฟ์สไตล์หลากหลายในเดือนเกิด ตลอดจนรับเครดิตเงินคืน เมื่อมียอดกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มตามกำหนด ฯลฯ เป็นต้น นอกจากนี้ธนาคารฯ ยังอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการชำระคืน โดยมีช่องทางการชำระคืนที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมหลากหลายช่องทาง รวมถึงการชำระเงินผ่านทางโมบายล์ แอปพลิเคชั่น เพื่อให้วงเงินคืนกลับมาทันที พร้อมกันนี้ ซิตี้แบงก์ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาบริการด้านดิจิทัลต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าซิตี้ เรดดี้เครดิต ให้สามารถเปลี่ยนรหัสกดเงินสดได้ทันที ขอวงเงินเพิ่มชั่วคราว ตรวจสอบวงเงินคงเหลือ และรายการเคลื่อนไหวล่าสุดได้ง่ายๆ ผ่าน "ซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน" (Citi Mobile(R) Application)
"บัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิต บัตรเดียวจบครบทุกความต้องการเรื่องเงินสด เป็นบัตรที่มาตอบสนองการใช้ชีวิตให้กับลูกค้าซิตี้แบงก์ให้ได้รับความสะดวกสบายด้านความต้องการในการใช้เงินสดหรือเงินก้อน ช่วยสานฝันทุกความต้องการของลูกค้าให้เป็นจริงได้ เพราะธนาคารซิตี้แบงก์เข้าใจทุกความต้องการทางการเงินเป็นอย่างดี"
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมของตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล พบว่ายังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งจำนวนบัญชีและยอดคงค้างสินเชื่อส่วนบุคคล สำหรับจำนวนบัญชีสินเชื่อส่วนบุคคล พบว่า มีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 9.87 ในปี 2562 (เดือนกุมภาพันธ์ – เดือนตุลาคม 2562) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่อยู่ระดับร้อยละ 5.27 โดยปัจจุบันมีจำนวนบัญชีสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งสิ้น 15.49 ล้านบัญชี ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2562 ประกอบด้วยสินเชื่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์จำนวน 3.04 ล้านบัญชี คิดเป็น ร้อยละ 19.60 และกลุ่มนอนแบงก์จำนวน 12.45 ล้านบัญชี คิดเป็นร้อยละ 81.40 (ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย)
ในขณะที่อัตราการเติบโตสำหรับบัตรกดเงินสดซิตี้ เรดดี้เครดิตของธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ในปี 2563 คาดการณ์ยอดเติบโต 10% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย โดยกลุ่มเป้าหมายหลักมีอายุระหว่าง 25 – 45 ปี และส่วนใหญ่อยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล มร. ซานดีพ กล่าวทิ้งท้าย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ www.citibank.co.th/ready-credit/citi-ready-credit