กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--ไออาร์ พลัส
TNP หรือ บมจ.ธนพิริยะ อวดโมเดลค้าปลีกท้องถิ่นไทยแกร่ง เผยผลงานปี 62 รายได้จากการขายโตเกือบ 13% อยู่ที่ 1,952 ลบ. กำไรสุทธิโตกว่า 36% อยู่ที่ 89 ลบ. บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 0.03 บ./หุ้น สะท้อนแผนการเติบโตและตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา
สองแม่ทัพใหญ่ "ธวัชชัย และ อมร พุฒิพิริยะ" ปลื้ม ผลงานโตตามเป้า แย้ม แผนขยายสาขาปีนี้เพิ่มอีก 5 สาขา หนุนสิ้นปีนี้มีสาขารวมกัน 33 สาขา ดันรายได้ปี 63 โตต่อไม่ต่ำกว่า 10%
นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึง ผลประกอบการปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,952.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.95% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 1,728.55 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 293.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 19.71% กำไรสุทธิอยู่ที่ 88.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.01% จากปีก่อนอยู่ที่ 65.14 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 15.01% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 4.51% เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ทำไว้ที่ 14.17% และ 3.75% ตามลำดับ เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายจากสาขาเดิม โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2562 มีจำนวนบิลและยอดซื้อต่อบิลเติบโตสูงขึ้นมาก เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี พร้อมด้วยการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลัง (งวดดำเนินงานวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562) เป็นเงินสดอีก 0.03 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 6 มีนาคม 2563 วันที่จ่ายปันผล 19 พฤษภาคม 2563 โดยก่อนหน้านี้ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.02 บาท/หุ้น ทำให้ในปี 2562 บริษัทฯ รวมจ่ายปันผลที่ 0.05 บาท/หุ้น เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา
"ผลประกอบการในปี 2562 TNP สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากกลยุทธ์การเพิ่มยอดขายในสาขาเดิม จัดโปรโมชั่นและกิจกรรมการตลาด รวมทั้ง กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ "ชิม ช้อป ใช้" ทั้งเฟส 1 เฟส 2 และเฟส 3 ของทางภาครัฐ กอรปกับการที่เรามีเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เปิดให้บริการแล้ว 20 สาขา รองรับการเข้ามาใช้บริการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นอย่างดี นอกจากนี้ การเดินหน้าขยายสาขาใหม่ในจังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียง ประสบความสำเร็จ สร้างความโดดเด่นให้ร้านค้าปลีกท้องถิ่นไทยภาคเหนือที่มีการเติบโตที่ดี และครองใจผู้บริโภคได้" นายธวัชชัย กล่าว
ด้านเภสัชกรหญิง อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2563 ประเมินภาพรวมปีนี้จะมีการเติบโตที่ดี บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10 – 15% ต่อเนื่องจากปี 2562 ที่ 1,952.45 ล้านบาท โดยยังคงเน้นยอดขายจากธุรกิจค้าปลีกมากกว่าค้าส่ง เนื่องจากอัตรามาร์จิ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกอยู่ที่ประมาณ 13 – 16% สูงกว่าธุรกิจค้าส่ง
สำหรับกลยุทธ์ปีนี้ ยังคงเน้นขยายสาขาใหม่ให้ครอบคลุมจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากจังหวัดเชียงรายมีศักยภาพในการเติบโต เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของประเทศไทย อีกทั้ง เป็นจังหวัดรองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น ประกอบกับความสามารถในการขยายตลาด จึงตั้งเป้าปีนี้เปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 5 สาขา หรือสิ้นปีมี 33 สาขา จากสิ้นปี 2562 มี 28 สาขา
ขณะที่ปัจจุบัน ร้านธนพิริยะมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 28 สาขา ครอบคลุม 3 จังหวัดภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงราย 23 สาขา จังหวัดพะเยา 4 สาขา และจังหวัดเชียงใหม่ 1 สาขา ตลอดจนมองหาสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่ายเพิ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
"ในปี 2562 ที่ผ่านมา เราเดินหน้ากลยุทธ์ขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียงที่มีศักยภาพ โดยจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่จำนวน 2 บริษัท เพื่อโฟกัสแผนการขยายสาขาในจังหวัดใกล้เคียงโดยเฉพาะ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ที่ชัดเจนและคล่องตัวในการบริหารงาน ในปีที่ผ่านมา
ร้านธนพิริยะเปิดสาขาใหม่แล้วจำนวน 4 สาขา สนับสนุนให้สิ้นปีมีสาขารวมกัน 28 สาขา จากเดิมที่วางไว้จะเปิดเพิ่ม 5 สาขา เนื่องจาก ทีมบริหารมีการคัดเลือกทำเลและควบคุมการก่อสร้างในระยะเวลาที่เหมาะสม สำหรับปีนี้ จึงตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 5 สาขา อย่างไรก็ดี นอกจากการขยายสาขาแล้ว เรายังให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพ ราคา และการให้บริการ ที่เป็นจุดแข็งสำคัญของธุรกิจ ตอกย้ำความสำเร็จของร้านค้าท้องถิ่นไทยที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน" เภสัชกรหญิง อมร กล่าว