กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง
เฮงเค็ลเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เทโรซอน อีพี 5020 ทีอาร์ (Teroson EP 5020 TR) ซึ่งเป็นกาวอีพ็อกซี่แบบเย็นที่ประกอบด้วย 2 ส่วนด้วยกันสำหรับงานซ่อมตัวถังรถยนต์ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อทดแทนวัสดุบัดกรีที่มีส่วนผสมของดีบุกแบบเดิมที่ใช้ในงานซ่อมชิ้นส่วนอุปกรณ์ยานยนต์ ตัวถังรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย มีคุณสมบัติแห้งเร็ว เมื่อกาวแห้งสามารถขัดตกแต่งเนื้อกาวให้เรียบเนียนเข้ากับพื้นผิววัสดุได้ง่ายกว่าโซลูชั่นแบบเดิม ทั้งยังไม่ทำให้เกิดปฏิกริยาความร้อนและประกายไฟในกระบวนการเหมือนเช่นการซ่อมด้วยการบัดกรีเชื่อมโลหะ
บริษัทในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้พัฒนาวัสดุสำหรับตัวถังรถยนต์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในการซ่อมชิ้นงานโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชิ้นส่วนประกอบอื่นที่เป็นพลาสติก สีตัวถัง และการเคลือบเพื่อป้องกันสนิมโลหะในส่วนท้าย เฮงเค็ลคาดการณ์ว่าต้องเผชิญกับความท้าทายนี้ จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ เทโรซอน อีพี 5020 ที อาร์ ขึ้น กาวอีพ็อกซี่สูตรใหม่นี้สามารถใช้งานในอุณหภูมิห้องได้ ผสานพื้นผิวโลหะได้อย่างเรียบเนียน โดยไม่ต้องใช้กระบวนการบัดกรีเพื่อเชื่อมโลหะ และไม่ทำให้เกิดประกายไฟ
"เทโรซอน อีพี 5020 ทีอาร์ เป็นโซลูชั่นกาวแบบเย็นสำหรับงานยึดเกาะที่พัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนการบัดกรีเชื่อมโลหะแบบเดิมซึ่งก่อให้เกิดปฏิกริยาความร้อนในกระบวนการซ่อม ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราซึ่งประกอบไปด้วย 2 ส่วนด้วยกันจะช่วยประหยัดเวลาและทุ่นแรงในงานซ่อมตัวถังรถยนต์ และที่สำคัญยังสร้างความปลอดภัยในการใช้งานได้มากกว่า" โจเอิร์น เซนเทิลเบน วิศวกรประจำภูมิภาคฝ่ายเทคโนโลยี การซ่อมบำรุงรักษายานยนต์ของเฮงเค็ล กล่าว
"ยิ่งไปกว่านั้น โซลูชั่นกาวตัวใหม่ของเรายังเป็นวัสดุที่ปราศจากดีบุก และโลหะหนักดังนั้นจึงอาจพูดได้ว่าเป็นวัสดุทางเลือกแบบยั่งยืน" เขากล่าวเสริม
เทโรซอน อีพี 5020 ทีอาร์ จะบรรจุในตลับปืนยิงซิลิโคนมาพร้อมกับหัวฉีดเพื่อผสมแบบพิเศษ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับพื้นผิวโลหะทุกชนิด รวมทั้งอลูมิเนียมอัลลอยแบบสมัยใหม่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานซ่อมตัวถังรถยนต์ทุกชนิด รวมทั้งรถบรรทุก กระบวนการทำงานของโซลูชั่นตัวใหม่ไม่ก่อให้เกิดปฏิกริยาความร้อนหรือประกายไฟ นั่นหมายความว่า ผู้เชี่ยวชาญไม่ต้องถอดชิ้นส่วนประกอบที่ต้องการซ่อมออกจากตัวถังเพื่อนำมาซ่อมแล้วนำกลับไปใส่ที่เดิม ดังนั้นจึงช่วยป้องกันการเสียหายที่อาจเกิดต่อชิ้นส่วนประกอบอื่นที่เป็นพลาสติก ในขณะที่กระบวนการบัดกรีซ่อมโลหะแบบเดิมนั้นก่อให้เกิดประกายไฟ
ด้วยคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมจึงทำให้เทโรซอน อีพี 5020 ทีอาร์ เป็นวัสดุที่เหมาะกับงานซ่อมทุกจุดที่เข้าถึงได้ยาก กระบวนการซ่อมแบบเย็นที่ปราศจากประกายไฟ ทำให้มั่นใจได้ว่าสีตัวถังและการเคลือบเพื่อป้องกันสนิมเหล็กไม่ได้รับผลกระทบในระหว่างการซ่อมชิ้นส่วน
วัสดุใหม่นี้สามารถเปิดใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใน 10 นาที ซึ่งเพียงพอสำหรับผู้เชี่ยวชาญในการซ่อมชิ้นส่วนและประกอบเข้ากับโครงสร้างตัวถังเดิมได้ นอกจากนี้ วัสดุใหม่ยังใช้งานง่ายกว่าและขัดผิวให้เรียบเนียบกว่าผลิตภัณฑ์ของเฮงเค็ลรุ่นก่อน ดังนั้นจึงไม่ทำให้เกิดการสะดุดเมื่อทำการพ่นในภายหลัง
เทโรซอน อีพี 5020 ทีอาร์ มีจำหน่ายแล้วในประเทศแถบยุโรปตะวันตกในขนาด 50 มิลลิลิตร ผลิตภัณฑ์ประกอบไปด้วย 2 ส่วนด้วยกัน กาวบรรจุในหลอดพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับปืนยิงซิลิโคนแบบมาตรฐานทั่วไป และตัวผสมที่คงตัว (static mixer) ที่จะทำให้สารเป็นเนื้อเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ขนาด 175 มิลลิลิตร จะเริ่มจำหน่ายปลายปีนี้ เทโรซอน (Teroson) เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของเฮงเค็ล และ/หรือบริษัทในเครือในเยอรมนีและที่อื่น ๆ
เกี่ยวกับเฮงเค็ล
เฮงเค็ล ดำเนินธุรกิจทั่วโลกด้วยพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่สมดุลและหลากหลาย บริษัทฯ เป็นผู้นำในสามกลุ่มธุรกิจทั้งในธุรกิจเพื่ออุตสาหกรรมและธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค อันเป็นผลมาจากแบรนด์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ธุรกิจเทคโนโลยีกาวของเฮงเค็ล (Adhesive Technologies) เป็นผู้นำในตลาดกาวในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน และผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ (Laundry & Home Care and Beauty Care businesses) เฮงเค็ลเป็นผู้นำในหลายตลาดและประเภทผลิตภัณฑ์ทั่วโลก เฮงเค็ลก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2419 และมีประวัติความสำเร็จอันยาวนานกว่า 140 ปี ในปี พ.ศ. 2560 เฮงเค็ลมียอดขายมากกว่า 2 หมื่นล้านยูโร และมีผลกำไรดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว 3,500 ล้านยูโร แบรนด์ชั้นนำ 3 อันดับแรกของเฮงเค็ล คือ ล็อคไทท์ (กาว) ชวาร์สคอฟ (ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม) และเพอร์ซิล (ผงซักฟอก) มียอดขายรวมกัน 6,400 ล้านยูโร เฮงเค็ลมีพนักงานมากกว่า 53,000 คนทั่วโลก ซึ่งมีความหลากหลายมีความมุ่งมั่น รวมกันเป็นหนึ่งเดียวด้วยวัฒนธรรมขององค์กรที่แข็งแกร่ง มีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน และมีคุณค่าร่วมกัน ในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืนซึ่งเป็นที่ยอมรับ เฮงเค็ลได้รับการยกย่องจากดัชนีและการจัดอันดับระหว่างประเทศต่างๆ หุ้นบุริมสิทธิของเฮงเค็ลจดทะเบียนอยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ DAX ของเยอรมนี ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเข้าชมที่ www.henkel.com