กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง
TPCH เดินหน้าสร้างผลงานปี 63 โตเท่าตัว ผลจากกำลังการผลิตโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล-โรงไฟฟ้าขยะรวม 5 แห่งแตะ 119 เมกะวัตต์จาก 60 เมกะวัตต์ปีก่อน ฟาก"กนกทิพย์ จันทร์พลังศรี"บิ๊กบอส ประกาศมั่นใจรายได้-กำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง พร้อมเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนฯ และเตรียมเจรจาโรงไฟฟ้าขยะเพิ่ม ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 62 รายได้รวม 1,642.02 ล้านบาท กำไรสุทธิ 359.51 ล้านบาท
นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และมีบริษัท ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ จำกัด (CRB) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากชีวมวล เป็นบริษัทแกน เปิดเผยว่า ในปี 2563 คาดว่ารายได้ของบริษัทฯ จะสร้างสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้ของการ COD จากโรงไฟฟ้าเดิมและโรงไฟฟ้าใหม่ที่จะCOD เพิ่ม ซึ่งจะสนับสนุนให้มีกำลังการผลิตรวมแตะ 119 เมกะวัตต์ จากปีก่อนที่มีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวล 60 เมกะวัตต์
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและรอ COD มีกำลังการผลิตรวม 59 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย TPCH 1,TPCH 2,TPCH 5, PTG จะส่งผลให้มีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่จ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ได้ครบทั้ง 10 โรง และโรงไฟฟ้าขยะ SP1 ซึ่งจะสนับสนุนรายได้และกำไรให้เติบโตในระยะยาว
ด้านนายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าจะมีใบอนุญาตในการขายไฟฟ้า (PPA) โรงไฟฟ้าชีวมวล ชีวภาพเพิ่มอีก 90 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันมีใบ PPA โรงไฟฟ้าชีวมวล ชีวภาพ 110 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะเพิ่ม 40 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มี PPA โรงไฟฟ้าขยะ 10 เมกะวัตต์ เพื่อให้ครบ 250 เมกะวัตต์ในปี 2563
"แผนระยะสั้นของ TPCH คือการมีใบ PPA ให้ครบ 250 เมกะวัตต์ ทั้งโรงไฟฟ้าชีวมวล ชีวภาพและโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งรอความชัดเจนจากนโยบายภาครัฐของโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากที่จะออกมาภายในไม่กี่เดือนนี้ เราก็พร้อมเดินหน้าเข้าร่วมประมูลทันที และบริษัท สยาม พาวเวอร์ (SP) ยังได้มีการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอยู่อีกหลายแห่ง ซึ่งทาง TPCH มีความสนใจเป็นอย่างมาก" นายเชิดศักดิ์กล่าวในที่สุด
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2562 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562) มีรายได้รวม 1,642.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.9 ล้านบาท หรือ 5.25% เทียบปี 2561 มีรายได้รวม 1,560.12 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 359.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.62 ล้านบาท หรือ 1.58% เทียบกับปี 2561 มีกำไรสุทธิ 353.89 ล้านบาท