กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมงานเสวนาเพื่อแถลงผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นความมั่นคง จัดโดยคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ณ อาคารอเนกประสงค์ กรมยุทธบริการทหาร แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซี่อ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยเข้าร่วมงานจำนวนมาก ในส่วนของกระทรวงดิจิทัลฯ ได้สรุปความคืบหน้าการป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางไซเบอร์ ดังนี้
1.) พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ฯ ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2562
2.) มีการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) 7 ท่าน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562
3.) คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563
4.) กมช. แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กกม. และ กบส.
5.) สำนักงานฯ จะจัดตั้งแล้วเสร็จ เมื่อ กบส. วางระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวกับ สำนักงาน (โครงสร้างสำนักงาน, อัตรากำลัง, แผนปฏิบัติราชการของสำนักงาน ฯลฯ)
6.) แต่งตั้งเลขาธิการฯ และบรรจุพนักงาน
โดย "คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ" หรือ "กมช." (National Cyber Security Committee : NCSC) จะมีหน้าที่กำหนดนโยบายด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ กมช. มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 7 ท่าน
ด้านความคืบหน้า "ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย" สรุปผลการดำเนินงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 – 18 กุมภาพันธ์ 2563 พบข่าวที่ต้องตรวจสอบทั้งหมด 1,390 เรื่อง ส่วนประเด็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พบว่ามีจำนวนเรื่องทั้งหมด 52 เรื่อง แบ่งเป็น ข่าวปลอม 41 เรื่อง ข่าวจริง 10 เรื่อง บิดเบือน 1 เรื่อง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลฯ ทำงานร่วมกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในกรณีที่ข่าวปลอมนั้น ๆ ส่งผลให้เกิดความเสียหายกับหน่วยงาน สามารถรวบรวมข้อมูลและแจ้งต่อ ศปอส.ตร. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนในทางคดีต่อไป