![สวทช. จับมือ ปตท.สผ. หนุนการพัฒนา EECi ร่วมพัฒนานวัตกรรม ตอบโจทย์ประเทศไทย 4.0]()
กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--
ปตท.สผ.
ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี : บริษัท
ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จับมือ สำนักงานพัฒนา
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (
สวทช.) ลงนามความร่วมมือการสนับสนุนการพัฒนาเขต
นวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ
ภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor of Innovation: EECi) เพื่อร่วมวิจัยและพัฒนา
นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรม 4.0 โดยมี นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท
ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และ ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนา
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (
สวทช.) ร่วมลงนาม
การลงนามความร่วมมือการสนับสนุนการพัฒนาเขต
นวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ
ภาคตะวันออก (EECi) ในครั้งนี้
ปตท.สผ. และ
สวทช. จะดำเนินกิจกรรมวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและ
นวัตกรรมร่วมกัน ทั้งด้านองค์ความรู้ การพัฒนาด้านบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน เพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจและช่วยยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศต่อไปในอนาคต
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนา
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (
สวทช.)กล่าวว่า
สวทช. หน่วยงานวิจัยและพัฒนา ในฐานะที่เป็นผู้บริหารโครงการ EECi ได้ดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ โดยมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก สำหรับความร่วมมือกับ
ปตท.สผ. ในครั้งนี้ เป็นการประสานประโยชน์ร่วมกันในการเป็นพันธมิตรร่วมทางที่ดี ซึ่ง
สวทช. ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และมุ่งเน้นถึงประโยชน์ของ EECi ที่จะเกิดขึ้นกับการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมยุค 4.0 การพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรมและระบบอัตโนมัติ และการยกระดับขีดความสามารถด้านการวิจัย พัฒนา และ
นวัตกรรม ในสาขาต่าง ๆ ของทั้งสองฝ่ายและภาคส่วนอื่น ๆ ของประเทศ รวมถึงสนับสนุนข้อมูลและองค์ความรู้ ตลอดจนบุคลากรและทรัพยากรที่เหมาะสม เพื่อวางแผนขับเคลื่อนและการพัฒนา EECi พัฒนากำลังคนและโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ
นวัตกรรม (วทน.) ของประเทศใน EECi และดำเนินกิจกรรมวิจัยและ
นวัตกรรมร่วมกัน รวมถึงให้บริการที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมวิจัยและ
นวัตกรรมในพื้นที่ EECi
ทั้งนี้ การก่อสร้าง EECi เป็นไปตามแผนและมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรสมัยใหม่และอุตสาหกรรมไบโอรีไฟเนอรี ซึ่งโรงงานต้นแบบไบโอรีไฟเนอรีถือได้ว่าเป็นแห่งแรกในอาเซียนซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเทคโนโลยีด้านชีวภาพของไทยให้ก้าวมาเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ยกระดับให้ประเทศไทยเป็นฮับไบโอเบสของอาเซียน และจะขยายไปตั้งโรงงานต้นแบบไบโอรีไฟเนอรีในต่างประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน และลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีนโยบายในการสร้างบุคลากรในสาขาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในอนาคต เพื่อรองรับการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษ
ภาคตะวันออก (อีอีซี)
นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท
ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
ปตท.สผ. ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยี และการร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนในการผสานประโยชน์และสร้างคุณค่าร่วมกัน เพื่อเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนดังวิสัยทัศน์ Energy Partner of Choice ของบริษัท ซึ่ง
สวทช. ถือเป็นอีกหนึ่งพันธมิตรสำคัญ ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันที่จะยกระดับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง และช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยมี
นวัตกรรมของตัวเองซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล
นอกจากการลงนามความร่วมมือครั้งนี้แล้ว
ปตท.สผ. ยังเป็นเอกชนรายแรกที่จะจัดตั้งศูนย์วิจัยขึ้นในพื้นที่ EECi อย่างเป็นทางการ ในชื่อศูนย์วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและ
นวัตกรรม ปตท.สผ. (PTTEP Technology and Innovation Centre: PTIC) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยสนับสนุนกิจกรรมการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา
นวัตกรรมสำหรับธุรกิจใหม่ของบริษัท ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ่นยนต์ (Robotics) โดยคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2564