กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--ไออาร์ พลัส
COM7 ฉลองผลงานปี 62 โกยรายได้ 33,362.5 ลบ. โต 19.5% กำไร 1,215.8 ลบ. โต 36.1% จากสินค้าในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์มียอดขายเติบโต โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายของปี ไอโฟนรุ่น 11 กระแสตอบรับแรงสุด !!! เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานและกำไรสะสม รวม 0.80 บ./หุ้น กำหนดจ่าย 26 พ.ค.นี้ พร้อมกำหนดกลยุทธ์ปี 63 โตอย่างแข็งแกร่ง รับปัจจัยบวกจาก 5G และสินค้าเทคโนโลยีกระตุ้นตลาด เดินหน้าขยายสาขาอีก 168 สาขา จากสิ้นปี 62 มี 787 สาขา ควบคู่การบริหารจัดการภายในที่ดี สนับสนุนเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 10%
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีและสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดประจำปี 2562 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562) มีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 33,362.5 ล้านบาท เติบโตขึ้น 19.5% เมื่อเทียบกับงวดปีก่อนอยู่ที่ 27,913 ล้านบาท กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 4,416.3 ล้านบาท เติบโตขึ้น 21.8% เมื่อเทียบกับงวดปีก่อนอยู่ที่ 3,626.4 ล้านบาท กำไรส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 1,215.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 893.1 ล้านบาท
ผลประกอบการที่ออกมาเติบโตโดดเด่นในครั้งนี้ เนื่องจากความสำเร็จในการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ในทุกกลุ่มธุรกิจ การจัดกิจกรรมการตลาด และโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย นำเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ และความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ กระแสสินค้ากลุ่มแกดเจ็ต (Gadget) ไอโอที (IoT) และสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ในบ้าน (Home appliances) ได้รับการตอบรับที่ดีขึ้น รวมไปถึง ผลตอบรับจากการเปิดตัวสินค้าใหม่แบรนด์ชั้นนำ โดยเฉพาะรุ่น iPhone 11 ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่ง COM7 เป็นตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ในประเทศไทยของ Apple ที่ได้รับปัจจัยบวกดังกล่าว รวมถึง สินค้ากลุ่ม iPad และ Apple Watch มีการเติบโตที่ดี ขณะที่ สินค้ารุ่นเก่าก็ยังได้รับการตอบรับจากลูกค้า
นอกจากนี้ การขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยมีรูปแบบร้านเหมือน Banana จำหน่ายสินค้าทั้งไอทีและสมาร์ทโฟน ได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังสามารถให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ สนับสนุนภาพรวมยอดขาย และการลงทุนไม่สูง จึงมีแผนการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ต่อเนื่องในปีนี้ ควบคู่การรุกตลาดออนไลน์มากขึ้น
ณ ปี2562 ภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัทฯ มีจำนวน 787 สาขา โดยเป็นการขยายเพิ่มจากปี 2561 รวม 147 สาขา แบ่งเป็น กลุ่มร้าน Multi-Brand ประกอบด้วย ร้าน Banana, Banana Mobile, Banana Outlet, BKK และ Kingkong phone รวมอยู่ที่ 409 สาขา ร้าน Studio7 & U store รวม 102 สาขา
True shop by com7 122 สาขา Banana shopping (Franchises) 80 สาขา iCare 26 สาขา Gadgets' store ประกอบด้วยร้าน Bb beyond, d-box, B-play และ E-quip รวม 11 สาขา แบรนด์ช็อป ประกอบด้วยแบรนด์ของ Samsung, OPPO, Vivo, Huawei และ Xiaomi รวม 37 สาขา
เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่สนับสนุน COM7 ด้วยดีเสมอมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายปันผลเป็นเงินสด รวม 0.80 บาท โดยจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท และจ่ายเงินปันผลพิเศษจากกำไรสะสมของบริษัทฯ หุ้นละ 0.20 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 และวันที่จ่ายปันผลวันที่ 26 พฤษภาคม 2563
ในปี 2563 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อน วางกลยุทธ์ขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 168 สาขา หรือสิ้นปีมี 955 สาขา พร้อมปรับโฉมใหม่ในบางสาขาเก่าให้ทันสมัยอีกประมาณ 40 สาขา โดยวางงบลงทุนไว้ที่ราว 300 ล้านบาท และนำสินค้าใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้าแกดเจ็ต และไอโอที ควบคู่การขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านออนไลน์ และรุกตลาดองค์กรในรูปแบบโซลูชันมากขึ้น รวมไปถึง การจับมือพันธมิตรใหม่เสริมแกร่ง อย่างไรก็ดี COM7 มุ่งเน้นการควบคุมและบริหารจัดการภายใน เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มองว่า ภาพรวมสินค้าเทคโนโลยีในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดการประมูลคลื่นความถี่ 5G แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สนับสนุนให้ประเทศไทยเดินหน้าเข้าสู่การพัฒนาเทคโนโลยี 5G เป็นทิศทางที่ดีในกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีจะได้รับการตอบรับ และอยู่ในความสนใจของผู้บริโภค ทั้งตลาด B2C ที่บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ควบคู่กับการรุกมายังตลาด B2B มากขึ้น
"จากเทรนด์เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจเละการดำเนินชีวิตของผู้บริโภค รวมไปถึง ประเทศไทยเรากำลังเข้าสู่ยุค 5G สินค้า Internet of Things (IoT) สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์แกดเจ็ตกลายเป็นสินค้ายอดนิยม และมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต เป็นโอกาสให้ COM7 ขยายตลาด และเติบโตในยุคเทคโนโลยีเช่นกัน" นายสุระ กล่าวทิ้งท้าย