กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--วิเคราะห์ข่าว สํานักงานประชาสัมพันธ์
นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กทม. กล่าวกรณีคอลัมนิสต์เสนอแนะ กทม. ควรให้มูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เข้ามาบริหารจัดการเป็นระยะเวลา 30 - 50 ปี โดยสนับสนุนงบประมาณร้อยละ 1 ของงบประมาณ กทม. และสามารถบริหารจัดการพื้นที่ได้อย่างอิสระ เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่าง กทม. กับหอศิลปฯ ว่า กทม. ได้จดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิหอศิลปฯ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2550 และได้แต่งตั้งกรรมการมูลนิธิหอศิลปฯ เพื่อบริหารจัดการหอศิลปฯ ให้เกิดความคล่องตัว รวมถึงเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างหอศิลปฯ คือ ให้เป็นสถานที่ศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรมแก่สังคม เสริมสร้าง สนับสนุน เผยแพร่งานด้านศิลปวัฒนธรรมและศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยในระดับประเทศและระดับนานาชาติที่มีคุณค่าทุกแขนง ตลอดจนสร้างโอกาสทางศิลปวัฒนธรรมให้เยาวชนได้มีโอกาสนำเสนอผลงาน สู่สายตาประชาชน ขณะเดียวกัน กทม. ได้สนับสนุนงบประมาณแก่มูลนิธิหอศิลปฯ มาโดยตลอด ปัจจุบัน กทม. ได้ออกข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง เงินอุดหนุนกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2560 ซึ่งมูลนิธิหอศิลปฯ สามารถขอรับเงินอุดหนุนจาก กทม. โดยผ่านขั้นตอนตามข้อบัญญัติฯ ดังกล่าว เนื่องจากจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายและวัตถุประสงค์การดำเนินงานสอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของ กทม. หรือประโยชน์แก่สาธารณะโดยมิได้มุ่งแสวงหากำไรหรือมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเมือง โดยในระยะแรกการขอสนับสนุนงบประมาณ ยังมีข้อจำกัดในการปรับแผนงาน โครงการ กิจกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับการเสนอของบประมาณและคณะกรรมการที่ปรึกษามูลนิธิหอศิลปฯ ซึ่ง กทม. ได้ติดตามและให้คำปรึกษาแก่กรรมการมูลนิธิหอศิลปฯ ในการขอรับงบประมาณอย่างใกล้ชิดตลอดมา
ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมหอศิลปฯ เป็นไปด้วยความคล่องตัว กทม. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาหอศิลปฯ เพื่อทำหน้าที่ติดตามการดำเนินงาน ให้คำปรึกษา เสนอแนะนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับศิลปวัฒนธรรม ดังนั้น เมื่อสัญญาให้สิทธิมูลนิธิหอศิลปฯ เป็นผู้บริหารจัดการหอศิลปฯ ในระยะเวลา 10 ปี ระหว่าง พ.ศ.2554 - 2564 สิ้นสุดลง กทม. จะยังคงสถานภาพมูลนิธิหอศิลปฯ และจะพิจารณาปรับปรุงข้อตกลง พร้อมกำหนดแนวทางบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ แต่ยังคงไว้ตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งหอศิลปฯ และอำนาจหน้าที่ของกทม. ต่อไป