กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2562 เป็นไปตามแผนทุกประการ โดยรายได้โต 30.6% จากการเริ่มขายไฟในโรงไฟฟ้าในเวียดนาม 49.6 เมกะวัตต์ ในเดือนมิถุนายน และโรงไฟฟ้าในมองโกเลีย 16.4 เมกะวัตต์ ในเดือนกรกฎาคม ปี 2562 ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้มีโรงไฟฟ้าที่ขายไฟแล้ว 6 โรง รวมกำลังการผลิตติดตั้งที่ 157 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ ในปี 2562 กำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมรายการพิเศษ FX) สร้างสถิติสูงสุดใหม่อยู่ที่ 613 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เทียบปีก่อน และมีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ 545 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการยังมีมติอนุมัติการลงทุนในโครงการพลังงานลมในเวียดนามจำนวน 48 เมกะวัตต์ ที่เคยแจ้งตลาดฯไว้ช่วงเดือนกันยายน ปี 2562 ว่าเรากำลังพัฒนา โดยขณะนี้โรงไฟฟ้าได้รับอนุมัติ PPA แล้ว พร้อมเริ่มก่อสร้างทันที โดยโครงการดังกล่าวมีกำหนด COD ในปี 2564 ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ ในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนของบริษัทฯ ไปสู่พลังงานลมจากปัจจุบันที่มีการลงทุนในโรงไฟฟ้าโซล่าเพียงชนิดเดียว”
“การขยายธุรกิจไปสู่ 4 ประเทศในเอเชีย ทั้งไทย ญี่ปุ่น เวียดนาม และมองโกเลีย ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ทำให้ช่วงนี้เราเห็นโอกาสมากมายในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา ในโรงไฟฟ้าทุกชนิด เราเชี่ยวชาญการเข้าไปเริ่มพัฒนาโครงการตั้งแต่ต้น ซึ่งเมื่อสำเร็จจะได้กำไรสูงกว่าการไปซื้อโครงการต่อจากคนอื่นมาก โดยตอนนี้เราอยู่ระหว่างการศึกษาหลายโครงการ”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินงานในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 400 เมกะวัตต์ หรือ 3 เท่าจากที่ขายไฟอยู่ในปัจจุบันมีโรงไฟฟ้า (รวมเฉพาะสัดส่วนที่ SSP ถือ) ขายไฟแล้ว 139 เมกะวัตต์ โครงการที่กำลังพัฒนาอื่นๆ รวมโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เพิ่งอนุมัติในครั้งนี้ และอีก 118 เมกะวัตต์ จะทยอยขายไฟใน 3 ปีข้างหน้าทั้งหมด ยังเหลืออีกประมาณ 200 เมกะวัตต์ ที่เราจะหาลงทุนเพิ่มเติมในช่วง 3-5 ปีนี้
ทั้งนี้ การออกวอร์แรนต์ให้กับผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมไว้รองรับแผนขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า โดยออกวอร์แรนต์ 230.5 ล้านหน่วย ที่ราคาแปลงสิทธิ 10 บาท โดยเงินที่ได้จากการแปลงสิทธิ จะมีเพื่อการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่ยังไม่ประกาศออกมา ไม่เกี่ยวกับทุกโครงการที่กำลังพัฒนาอยู่ซึ่งมีเงินทุนพร้อมอยู่แล้ว
“ปีนี้เราจ่ายปันผลเป็นเงินสดลดลงบ้างในอัตรา 0.11 บาท/หุ้น ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับโอกาสและแผนการเติบโดของบริษัทใน 5 ปีนี้”
ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้โตเกิน 20% และกำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่เหมือนเดิม ปีนี้โรงไฟฟ้าในมองโกเลียและเวียดนามทั้งสองโรงรวม 66 เมกะวัตต์ ที่เข้ามาช่วงกลางปีที่แล้วจะรับรู้เต็มปี รวมทั้ง โรงไฟฟ้า ยามากะ จำนวน 34.5 เมกะวัตต์ จะเริ่มรับรู้ช่วงกลางปีนี้ เชื่อว่าจะทำให้ผลประกอบการเป็นไปตามแผน