กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเปิดการสัมมนาแนวทางการขับเคลื่อนบูรณาการติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้านการเกษตร ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 - 29 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ห้องพึ่งบุญฯ อาคารวิสัยทัศน์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน) ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) จัดการสัมมนาแนวทางการขับเคลื่อนบูรณาการติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการเกษตร เพื่อให้ส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบและเข้าใจแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อีกทั้งสร้างความเชื่อมโยงเครือข่ายในการติดตามโครงการฯ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายอนันต์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา มีแผนงานโครงการตามพระราชดำริภายใต้กระทรวงเกษตรฯ มากกว่า 3,500 โครงการ ซึ่งเป็นการพัฒนาด้านแหล่งน้ำกว่า 3,000 โครงการ และงานพัฒนาด้านการเกษตรและการส่งเสริมอาชีพกว่า 500 โครงการ โดยการสัมมนาครั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ มุ่งขยายผลการเรียนรู้เกี่ยวกับแนวพระราชดำริให้สามารถนำศาสตร์พระราชามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น เพราะภาคเกษตรสามารถรองรับวิกฤตการณ์ทางด้านเศรษฐกิจได้ดี จะเห็นได้จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ หรือผลกระทบไวรัสโควิด-19 ที่อาจกระทบต่อพนักงานหรือแรงงานจากภาคธุรกิจหลายแห่งต้องกลับสู่ภูมิลำเนาไปประกอบอาชีพด้านเกษตร นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังนำนโยบาย Eat Thai First เพื่อส่งเสริมการบริโภคอาหารไทย สินค้าเกษตรไทยให้ยืนหนึ่ง อันเป็นการบูรณาการทุกภาคส่วนตามแนวพระราชดำริในการพัฒนาภาคเกษตรไทยร่วมกัน
ด้านนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการ สศก. กล่าวเพิ่มเติมว่า สศก. ได้ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) จัดงานงานครั้งนี้ขึ้น ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้สนองงานพระราชดำริมาถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ ทั้งเลขาธิการ กปร. (นายดนุชา สินธวานนท์) รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา (นายอภิชาต จงสกุล) และปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ดร.ปรเมธี วิมลศิริ) มาร่วมอภิปราย
ทั้งนี้ สศก. ได้รับมอบหมายให้ติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ งานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เพื่อใช้เป็นข้อมูลแนวทางประกอบการขับเคลื่อนโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมาย สามารถเป็นต้นแบบขยายผลไปในชุมชนใกล้เคียงและพื้นที่อื่น ๆ ต่อเนื่อง เช่น โครงการเกษตรวิชญา โครงการศูนย์ภูฟ้าฯ โครงการอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดาฯ เป็นต้น นอกจากนี้ สศก. จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในมิติต่าง ๆ เช่น รายละเอียดโครงการ ผลการติดตามและประเมินผลโครงการเข้าเป็นส่วนหนึ่งใน Big Data ด้านการเกษตรของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนโครงการต่อไป การสัมมนาครั้งนี้ จึงเป็นอีกเวทีสำคัญที่ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ทำให้ทุกหน่วยงานได้รับความรู้ ความเข้าใจถึงแนวทางในการขับเคลื่อนหลากหลายมิติ และรับทราบกรอบแนวทางในการติดตามโครงการฯ อันจะก่อให้เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติงานเกิดผลสัมฤทธิ์ ขยายผลไปสู่พื้นที่อื่น ๆ อย่างกว้างขวาง และส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ในทุกมิติของเกษตรกรให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป