กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--เอกชัยการแพทย์
บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) ตอกย้ำความมั่นใจภาพรวมธุรกิจปีนี้รายได้ยังเติบโตอย่างมีศักยภาพรับอานิสงส์ยกระดับให้บริการรักษาโรคเฉพาะทางมากขึ้น พร้อมเปิดให้บริการศูนย์กุมารเวชอย่างเป็นทางการ “นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร” ตั้งเป้ารายได้ปี 63 โตไม่ต่ำกว่า 5-7 % ด้าน บล.เคทีบี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 8.20 บาท ระบุ ไวรัส COVID-19 กระทบแค่ช่วงสั้น ขณะนี้ราคาหุ้นรับรู้ไปพอสมควรแล้ว ประเมินกำไรจะกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้งในปีหน้า ได้ศูนย์กุมารเวชศาสตร์ และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุช่วยสนับสนุนการเติบโตระยะยาว
นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจภาพรวมธุรกิจปีนี้ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการขยายศูนย์ให้บริการด้านต่าง ๆ อย่างเข้มข้น อาทิ ศูนย์กุมารเวช, ศูนย์ไตเทียม,ศูนย์หู ตา คอ จมูก,ศูนย์ทันตกรรม,ศูนย์ความงาม,ศูนย์กายภาพบำบัด รวมถึงการปรับปรุงห้องพักผู้ป่วย เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มาใช้บริการด้านต่างๆ ของโรงพยาบาลมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และช่วยเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยเฉพาะทางที่มีรายได้ต่อหัวที่สูงขึ้น โดยมั่นใจหนุนรายได้ปี 2563 เติบโตไม่ต่ำกว่า 5-7 % จากปี 2562 ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35-40%
“ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่บริษัทฯรุกขยายศูนย์ให้บริการด้านต่าง ๆ อย่างเข้มข้น รวมถึงการปรับปรุงห้องพักต่าง ๆ ซึ่งถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ทุกประการ ทำให้ภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินงานปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นเพิ่มมากขึ้น”นายแพทย์อำนาจกล่าวในที่สุด
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำ“ซื้อ” หุ้น EKH โดยฝ่ายวิจัยยังคงกำไรสุทธิปี 2020E อยู่ที่ 169 ล้านบาท (+5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) ซึ่งระยะสั้นมีปัจจัยกดดันจากไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลต่อลูกค้าชาวจีนในการเข้ามาใช้บริการศูนย์IVF ในประเทศไทย โดยคาดว่าอุปสงค์จากผู้ใช้บริการ IVF ชาวจีน จะหดตัวลงโดยทางฝ่ายประเมินว่าลูกค้าชาวจีนจะหายไปถึง 90% เป็นเวลา 3 เดือน (ก.พ.20-เม.ย.2563) หากสถานการณ์ยาวนานกว่าที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ 3 เดือน มีโอกาสที่จะปรับประมาณการกำไรลงในอนาคต
ส่วนราคาหุ้นที่ปรับตัวลง 9% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเป็นผลจากความกังวลไวรัส COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดหนักในประเทศจีน ที่อาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าชาวจีนที่เดินทางเข้ามาใช้บริการศูนย์ IVF ลดลง ซึ่งทางฝ่ายวิจัยคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อ EKH เพียงระยะสั้นเท่านั้น และปัจจุบันราคาหุ้นได้รับรู้ไปพอสมควรแล้ว โดย EKH เทรดที่ 2020E PER=19.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ 33 เท่า ในขณะที่กำไรจะกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้งในปี 2564 ที่+16% จาก IVF ในขณะที่การเปิดศูนย์กุมารเวชศาสตร์ และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตระยะยาว
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยให้ราคาเป้าหมายที่ 8.20 บาท อิงวิธี DCF (WACC=9%,TG=3%) ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายยังไม่รวมการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่เพื่อประกอบกิจการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 60 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 และคาดว่าจะเปิดดำเนินการต้นปี 2565