กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--เด็มโก้
DEMCO ปักหมุดปี 63 เข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ หลังตุนงานในมือ 2,670 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าลุยประมูลงานภาครัฐ-เอกชน-Private PPA-งานโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน บิ๊กบอส “พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์”โชว์ผลงานปี 62 กำไรสุทธิ จากงบเฉพาะกิจการ 83.60 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลในอัตรา 0.03 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 11 พฤษภาคม นี้
นายพงษ์ศักดิ์
ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) (DEMCO) เปิดเผยว่า
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2562 (1 มกราคม-31 ธันวาคม 2562) มีรายได้รวม 2,975 ล้านบาท
และมีกำไรสุทธิ จากงบเฉพาะกิจการซึ่งเป็นฐานในการจ่ายเงินปันผล จำนวน 83.60 ล้านบาท
คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับ 14.9% ขณะที่งานในมือรอรับรู้รายได้
(Backlog) ในปัจจุบันอยู่ที่ 2,670 ล้านบาท
ทั้งนี้
คณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2562 ในอัตรา 0.03 บาท/หุ้น
ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 11 พฤษภาคม และกำหนดจ่ายในวันที่ 22 พฤษภาคม 2563
นี้
“กำไรจากการดำเนินงานยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
และมั่นใจว่าทิศทางในปี 2563 จะเริ่มเข้าสู่โหมดของการเติบโตรอบใหม่
โดยบริษัทฯมีแผนจะเข้าประมูลงานมากขึ้นทั้งจากงานรัฐ และเอกชน โดยจะให้ความสำคัญในงานประเภท
Private PPA และ
งานโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน Community-Based Power Plants ทั้งการลงทุนเอง
และ การรับเหมาก่อสร้าง โดยอยู่ระหว่างรอดูความชัดเจนของภาครัฐ
ขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้รับปัจจัยบวกจากการขยายการลงทุนเครือข่ายรองรับ 5G
ของเอกชน หลังเสร็จสิ้นการประมูลไปแล้ว
ซึ่งจะทำให้งานในมือรอรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น”
ทั้งนี้
สัดส่วนรายได้ของ DEMCO ในปัจจุบันงานภาครัฐอยู่ที่ 80% และงานเอกชนอยู่ที่ 20%
กรรมการผู้จัดการ
DEMCO กล่าวอีกว่า
บริษัทฯคาดว่าจะมีงานใหม่ๆ ของภาครัฐออกมาอย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวมประมาณ 50,000
ล้านบาท เช่น งานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คาดจะมีงานออกมาให้ประมูล
40,000 ล้านบาท , งานจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
คาดจะมีงานออกมา 7,000 ล้านบาท และงานย้ายงานสายไฟฟ้าลงใต้ดินประมาณ 2,800 - 3,000
ล้านบาท รวมทั้งยังมีแผนขยายงานรับเหมาการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar
Rooftop) ภายในประเทศมากขึ้น เพื่อตอบสนองลูกค้าในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก
โดยตั้งเป้าหมายในปี 2564 จะมีกำลังการติดตั้งรวมเป็น 20 เมกะวัตต์
ส่วนการประมูลงานในกลุ่มประเทศ
CLMV ได้แก่
เมียนมา ,เวียดนาม, ลาว, กัมพูชา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานประเภทสายส่ง มูลค่า 2,000
ล้านบาท และในปี 2562 ได้มีการยื่นประมูลไปบางส่วน
คาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนในปี 2563