![ME ออกจากแซนด์บ็อกซ์ ธปท. หลังผ่านการทดสอบเทคโนโลยีจดจำใบหน้า ช่วยให้ลูกค้าเปิดบัญชีได้ง่าย สะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องไปสาขา]()
กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
ME by TMB ได้รับอนุญาตจาก
ธปท. ให้ออกจากแซนด์บ็อกซ์ เฟสแรกซึ่งเป็นการทดสอบการเปิด
บัญชีเงินฝากด้วยเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) ผ่านการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยี e-KYC โดยไม่ต้องไปสาขา เพียงลูกค้ามีพาสปอร์ต พร้อมด้วย บัตรประชาชน และ
สมาร์ทโฟนระบบ android ที่มีฟังก์ชั่น NFC ก็สามารถเปิด
บัญชี ME SAVE ได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชัน
ME by TMB ทำให้ลูกค้าได้รับความปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทางไปสาขา ตอกย้ำความเป็นผู้นำดิจิทัลแบงก์กิ้งแห่งแรกของไทย พร้อมเปิดให้บริการแล้ววันนี้ ส่วนการทดสอบเฟสสอง ที่เป็นการทดสอบการเปิด
บัญชีเงินฝากข้ามธนาคารผ่านแพลตฟอร์ม NDID กำลังเดินหน้าพัฒนาด้วยเป้าหมายเพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย คาดว่าจะพร้อมให้บริการเร็วๆ นี้
ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร
ME by TMB ผู้นำดิจิทัลแบงก์กิ้งแห่งแรกของเมืองไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ TMB ได้มอบหมายให้
ME by TMB เข้าร่วมทดสอบการให้บริการเปิด
บัญชีเงินฝากผ่านช่องทางดิจิทัลโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในขั้นตอนการแสดงพิสูจน์ตัวตน (Electronic Know Your Customer : e-KYC) เพื่อให้บริการเปิด
บัญชี ME SAVE โดยล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (
ธปท.) ได้อนุญาตให้ ME ออกจากแซนด์บ็อกซ์ในเฟสแรกแล้ว สำหรับการเปิด
บัญชีโดยใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) เพียงลูกค้ามีพาสปอร์ต พร้อมด้วยบัตรประชาชน และ
สมาร์ทโฟนระบบ android ที่มีฟังก์ชั่น NFC ก็สามารถเปิด
บัญชี ME SAVE ด้วยแอปพลิเคชัน
ME by TMB ได้ง่ายขึ้น ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา
พร้อมกันนี้ ME ยังคงพัฒนาบริการเพื่อให้ชีวิตทางการเงินของคนไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบเฟส 2 เป็นการทดสอบการเปิด
บัญชีเงินฝากข้ามธนาคารผ่านแพลตฟอร์ม NDID พิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยี e-KYC โดยใช้บัตรประชาชน ผ่านโทรศัพท์มือถือระบบ android และ iOS คาดว่าจะได้รับอนุญาตจาก
ธปท. ให้ออกจากแซนด์บ็อกซ์ และเปิดให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไปอย่างเป็นทางการได้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับความปลอดภัย และมีความสะดวกสบายในการเปิด
บัญชีมากยิ่งขึ้น โดยสามารถเช็คข้อมูลระหว่างธนาคารโดยไม่ต้องไปพิสูจน์และยืนยันตัวตนที่สาขา ในขณะเดียวกันในส่วนของธนาคารก็จะช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการยืนยันตัวตนของลูกค้า สามารถเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างภาครัฐ เอกชน และธนาคารเข้าด้วยกัน และช่วยลดต้นทุนการทำงานด้านต่างๆ ของธนาคาร ทำให้สามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น แล้วแปลงคืนกลับมาเป็นผลตอบแทนด้านดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และบริการที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าด้วย” ดร.เบญจรงค์ กล่าว
“ทั้งนี้ ME ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่ ซึ่งลูกค้าสามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัย เนื่องจากทุกขั้นตอนอยู่ภายใต้มาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยของ TMB จนได้รับการยอมรับจากองค์กรต่าง ๆ และล่าสุดยังได้รับ 2 รางวัลจาก The Asset Triple A Digital Awards 2020 จัดโดย The Asset นิตยสารชั้นนำด้านการเงินการธนาคารในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ Best Biometrics Project – การตรวจสอบเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลด้วยเทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นรางวัลจากการพัฒนาระบบ e-KYC และ Best Digital Insurance Experience – การสร้างประสบการณ์ซื้อประกันผ่านดิจิทัลยอดเยี่ยม จากผลิตภัณฑ์ ME SURE โดยก่อนหน้านี้ยังได้รับรางวัล Best Mobile Initiative, Application or Programmer การริเริ่มบริการโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันบนโมบายแบงก์กิ้งยอดเยี่ยม จาก The Asian Banker Thailand Country Awards 2019 จัดโดย The Asian Banker นิตยสารชั้นนำด้านการเงินการธนาคารในภูมิภาคเอเชียมาแล้ว ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยต่อไป” ดร.เบญจรงค์กล่าว