![คลอดแล้ว MOU สู้Covid-19 รมช.มนัญญา ผลักดันกระจายผลผลิตผลไม้ส่งออก ด้วยเครือข่ายสหกรณ์ จับมือชาวสวนร่วมห้างโมเดิร์นเทรด]()
กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์
รัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สหกรณ์ผู้ผลิต
ผลไม้ สหกรณ์เครือข่ายผู้ประกอบการภาคเอกชน และ
รัฐวิสาหกิจ พร้อมด้วย คณะที่ปรึกษา และนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ รวมทั้ง
ข้าราชการในสังกัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตและการค้าตลาด
ผลไม้คุณภาพของสถาบันเกษตรกร ประจำปีงบประมาณ 2563 ณ โรงแรมนิวแทรเวิลลอดจ์ จังหวัดจันทบุรี
นางสาว
มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดหนักในประเทศจีนและอีกหลายประเทศทั่วโลกในขณะนี้ ซึ่งแต่ละปีประเทศจีนมีปริมาณการสั่งซื้อ
ผลไม้เหล่านี้จากไทยเป็นจำนวนมาก คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าต่างๆไปยังประเทศจีนโดยเฉพาะ
ผลไม้ 3 ตัวหลัก คือ ทุเรียน ลำไย และมังคุด ซึ่งมีปริมาณมากกว่า 84%ของปริมาณ
ผลไม้ทั้งประเทศทั้งนี้จากการประเมินสถานการณ์ และร่วมกันทำงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเล็งเห็นว่าเกษตรกรอาจได้รับผลกระทบเนื่องจากผลผลิตไม่สามารถส่งออกได้ โดยเฉพาะ
ผลไม้ที่จะออกสู่ตลาดและรอการส่งออก ได้แก่ ทุเรียน ลำไย มังคุด เงาะ ลองกองและลิ้นจี่ เมื่อมองภาพรวมแล้วต้องเร่งดำเนินการจัดทำมาตรการที่จะไม่ให้การจัดจำหน่าย
ผลไม้มีการกระจุกตัวซึ่งนำไปสู่ผลกระทบโดยรวมกับเศรษฐกิจของประเทศและอาจเกิดปัญหาให้กับเกษตรกรผู้ผลิต
ผลไม้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงเห็นว่าถึงเวลาที่จะพลิกวิกฤตครั้งนี้ให้เป็นโอกาสที่เราจะใช้ขบวนการสหกรณ์นำ
ผลไม้ดีมีคุณภาพดี ซึ่งแต่เดิมส่งออกไปยังต่างประเทศแบ่งสรรมาให้ผู้บริโภคในชาวไทยได้บริโภคมากขึ้นโดยกระจายผ่านเครือข่ายสหกรณ์ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ตามนโยบาย
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนด "มาตรการช่วยเหลือในปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โดย จัดสรรงบประมาณผ่านกรมส่งเสริมสหกรณ์ ดังนี้ 1.)ด้านการผลิต ส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์ผลิต
ผลไม้คุณภาพและผ่านมาตรฐาน GAP จำนวน 1,100 ราย ซึ่งจะสามารถจัดจำหน่ายได้ในสถานประกอบการที่ต้องการมาตรฐานการรองรับ 2.)ด้านการรวบรวม พัฒนาอาคารรวบรวม
ผลไม้สะอาดได้มาตรฐาน GMP และจัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 1 จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ วงเงิน 200 ล้านบาท ให้สหกรณ์กู้ยืมไปรวบรวมผลผลิตจากสมาชิกตลอดช่วงฤดูกาลผลิตปีนี้3.)ด้านการตลาด ส่งเสริมให้ขบวนการ สหกรณ์ใช้เครือข่ายสหกรณ์ในการเป็นผู้กระจายผลผลิตสู่การบริโภคทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยกำหนดให้มีกิจกรรมสหกรณ์พบผู้ผลิต จัดกิจกรรมเชิงท่องเที่ยวในสวน
ผลไม้ รวมทั้งจัดมหกรรมสินค้าสหกรณ์ ปรับการจำหน่ายจากช่องทางปกติเป็นการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์ซึ่งทางกระทรวงได้มอบหมายไปยังหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน รมช.มนัญญา กล่าว
ในการนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือทางการค้า
ผลไม้ร่วมกันระหว่างสหกรณ์ผู้ผลิต
ผลไม้ ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด สหกรณ์การเกษตรมะขาม จำกัด สหกรณ์การเกษตรเมืองขลุง จำกัด สหกรณ์การเกษตรนายายอาม จำกัด จ.จันทบุรี สหกรณ์การเกษตรเขาสมิง จำกัด และสหกรณ์ส่งเสริมธุรกิจภาคการเกษตรจังหวัดตราด จำกัด จ.ตราด สหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร จำกัด สหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี สหกรณ์การเกษตรพรหมคีรี จำกัด จ.นครศรีธรรมราช สหกรณ์การเกษตรเมืองลับแล จำกัด จังหวัดอุตรดิตถ์ และสหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัด จ.ลำพูน กับสหกรณ์เครือข่ายผู้รับซื้อ
ผลไม้จากจังหวัดต่าง ๆ อาทิ สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด จ.นครราชสีมา สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จ.ร้อยเอ็ด สหกรณ์ออมทรัพย์กรมศุลกากร จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ที่จะรับซื้อ
ผลไม้จากสหกรณ์ชาวสวน
ผลไม้ในภาคตะวันออก ภาคใต้และภาคเหนือ เพื่อนำไปกระจายสู่ผู้บริโภคในทุกพื้นที่ และได้ดำเนินการทำข้อตกลงซื้อขาย
ผลไม้ระหว่างสหกรณ์ชาวสวน
ผลไม้กับห้างโมเดิร์นเทรด ได้แก่ บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (ห้างเทสโก้โลตัส) บริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เซนทรัล ฟู้ดรีเทล จำกัด (ท๊อปซูเปอร์มาเก็ต) และบริษัทผู้ส่งออก ได้แก่ บริษัท ริชฟิลด์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด โดยความร่วมมือดังกล่าวคาดหวังว่าจะมีการกระจาย
ผลไม้ผ่านเครือข่ายสหกรณ์
คู่ค้าเอกชน ทั้งห้างโมเดิร์นเทรด ผู้ส่งออกและผู้ประกอบการ ในการช่วยกันระบายผลผลิตสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ป้องกันปัญหาผลผลิตกระจุกตัวในช่วงที่ออกมาพร้อมกัน และช่วยเพิ่มช่องทางกระจาย
ผลไม้ให้ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการบูรณาการของทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันในการพัฒนา
นอกจากนี้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทำแผนเพื่อขอเงินอุดหนุน จากรัฐบาลเพื่อบริหารจัดการ
ผลไม้ผ่านระบบสหกรณ์ วงเงิน 414.20 ล้านบาท โดยให้สหกรณ์ต้นทางใช้เป็นค่าบริหารจัดการ
ผลไม้ กิโลกรัมละ 1 บาท ค่าขนส่ง จากแหล่งรวบรวมไปสหกรณ์ปลายทาง กิโลกรัมละ 2 บาท ค่าจัดซื้อบรรจุภัณฑ์ เช่น ตะกร้า กล่อง จำนวน 3.5 ล้านใบ และค่าบริหารจัดการของสหกรณ์ปลายทางเพื่อกระจาย
ผลไม้สู่ผู้บริโภคในพื้นที่ กิโลกรัมละ 50 สตางค์ และจะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์บริโภค
ผลไม้ ในจังหวัดใหญ่ เช่น นครราชสีมา อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี เชียงใหม่ สงขลา สุราษฎร์ธานี กรุงเทพฯ รวม 16 จังหวัดและระดับอำเภอ 824 อำเภอ ซึ่งในเดือนเมษายน คาดว่า
ผลไม้จะเริ่มออกสู่ตลาดราว 200,000ตัน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะเข้ามาขับเคลื่อนและช่วยกระจายสินค้าผลผลิต
ผลไม้อย่างเป็นระบบต่อไป