![แม็คโคร รับซื้อผลไม้ชาวสวนเพิ่มอีก 40% ช่วยระบายผลผลิต พร้อมจุดพลุ “เทศกาลผลไม้ฤดูกาล” ทุกสาขา กระตุ้นไทยช่วยไทย ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19]()
กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--นิโอ ทาร์เก็ต
บริษัท
สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนาม MOU
กระทรวงพาณิชย์ และ
กระทรวงเกษตรฯ รับซื้อ
ผลไม้ฤดูกาลจาก
เกษตรกรในปี 2563 เพิ่มจากปีก่อน 40% หวังช่วยชาวสวนบรรเทาผลผลิตล้นตลาดจากสถานการณ์
โควิด-19 พร้อมจัด “เทศกาล
ผลไม้ฤดูกาล
ภาคตะวันออก” ขนทัพ
ทุเรียน เงาะ
มังคุด สละ อัดแคมเปญใหญ่ เน้นไทยช่วยไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ
นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท
สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องด้วยมีการคาดการณ์ว่า ปี 2563
ผลไม้ฤดูกาลจะมีผลผลิตจำนวนมาก และส่วนใหญ่กระจุกตัวภายในประเทศ ด้วยผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส
โควิด-19 ซึ่งอาจทำให้การส่งออกลดลง แม็คโคร ในฐานะผู้นำธุรกิจค้าส่งที่สนับสนุนผลผลิต
เกษตรกรไทยมาโดยตลอด จึงได้วางแผนการรับซื้อเพิ่มขึ้น และได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการรับซื้อ
ผลไม้จากชาวสวนกับสองกระทรวงหลักอย่าง
กระทรวงพาณิชย์ และ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมจัด “เทศกาล
ผลไม้ฤดูกาล
ภาคตะวันออก” ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้คนไทยช่วยกันอุดหนุนผลผลิตชาวสวน
“ในภาวะเช่นนี้ทุกคนต้องช่วยกัน แม็คโครขอเป็นแรงสนับสนุนด้านการตลาดให้
เกษตรกร ผ่านการรับซื้อ กระจายผลผลิต เพื่อไม่ให้เกิดภาวะล้นตลาด ราคาสินค้าตกต่ำ โดยจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมรณรงค์บริโภค
ผลไม้ภายในประเทศตลอดทั้งปี เริ่มจากงานเทศกาล
ผลไม้ฤดูกาล
ภาคตะวันออก ที่จัดขึ้นในทุกสาขาของแม็คโครตั้งแต่เดือนมีนาคม-มิถุนายน ”
สำหรับในปี 2563 นี้ แม็คโคร ตกลงรับซื้อ
ผลไม้ตามฤดูกาลจาก
เกษตรกรในภาคต่างๆ มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 40 เปอร์เซนต์ อาทิ เงาะ
มังคุด ทุเรียน ลองกอง สละ จากสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่
ภาคตะวันออก ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตรนายายอาม ,สหกรณ์การเกษตร เมืองขลุง, สหกรณ์การเกษตรมะขาม ,สหกรณ์การเกษตรคิชฌกูฎ,วิสาหกิจชุมชน ปัฎวี จำนวนกว่า 4,000 ตัน
ทั้งนี้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดการณ์ว่า ปี 2563 ประเทศไทยจะมีปริมาณ
ผลไม้ออกสู่ตลาด รวม 3,072,591 ตัน โดย 84 เปอร์เซนต์ของปริมาณ
ผลไม้ทั้งหมด คือ
ทุเรียน ลำไย และ
มังคุด
“แม็คโครหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับ
เกษตรกรในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ให้มีช่องทางในการจำหน่าย ขายผลผลิตได้ในราคาเป็นธรรม สร้างรายได้ที่มั่นคงอย่างยั่งยืนให้กับ
เกษตรกรชาวสวนของไทย” นางศิริพร กล่าวทิ้งท้าย