กรุงเทพฯ--10 มี.ค.--พีอาร์มงกุฏเพชร
ประเพณีบุญผะเหวด ถือเป็นงานบุญเก่าแก่ที่อยู่คู่กับชาวจังหวัดร้อยเอ็ดมานานกว่า ๑๐๐ ปี ระบุในคำขวัญของจังหวัด เรื่องงานบุญเดือน ๔ ตามวิถีวัฒนธรรมของชาวอีสาน กิจกรรมสำคัญ คือ การแสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง “พระเวสสันดรชาดก” ที่คนไทยทั่วไปรู้จักกันดีในนาม “เทศน์มหาชาติ” ภาษาอีสานเรียกว่า “เทศน์ผะเหวด” ซึ่งปีนี้ จ.ร้อยเอ็ด ยังได้ทุ่มงบยิ่งใหญ่ในการจัดแสดงแสงสีเสียง สื่อผสม 4D ตำนานพระเวสสันดร “มหาชาดก ชาติที่ 10 มหาชาติ พระสัพพัญญู” โดยย่อใจความทั้ง 13 กัณฑ์ รวมทั้งสิ้น 1000 กว่าพระคาถา มาไว้ในรูปแบบการแสดงแสงสีเสียงสื่อผสมสุดยิ่งใหญ่ ตระการตา ระยะเวลา 45 นาที ผู้แสดงกว่า 100 คน เปิดการแสดงสองรอบ ในพิธีเปิดมีนายบรรจง โฆษิตจีรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด, นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และ นายอนุชิต ชนะวัฒน์ปัญญา วัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมงานด้วย โดยแสงสีเสียงสื่อผสมจัดขึ้นเพื่อฉลองงานใหญ่ บุญผะเหวด ประจำปี 2563 เมื่อเร็วๆ นี้ (วันที่ 7 มี.ค.63 บึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด)
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ตำนาน ความเชื่อ ทำให้พุทธศาสนิกชนหลั่งไหล มูลเหตุแห่งการทำบุญผะเหวด มีกล่าวไว้ในหนังสือมาลัยหมื่นมาลัยแสนว่า ครั้งหนึ่งพระมาลัยให้ไปไหว้พระธาตุเกษแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ได้พบและสนทนากับพระศรีอาริยเมตไตรย พระโพธิสัตว์ ผู้ซึ่งจะได้จุติกาลลงมาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ทราบความประสงค์ของมนุษย์จากพระมาลัยแล้วจึงสั่งความกับพระมาลัยว่า "หากใครต้องการจะพบและเกิดในสมัยพระศรีอารีย์ ให้ทำแต่ความดี อย่าฆ่าพ่อตีแม่ สมณชี พราหมณ์ ครูอาจารย์ อย่าทำร้ายพระพุทธเจ้า อย่ายุยงสงฆ์ให้แตกกัน และต้องฟังเทศน์มหาชาติให้จบทุกกัณฑ์ในวันเดียว ท่านทั้งหลายจะได้เกิดร่วมและพบพระองค์" ด้วยเหตุนี้เอง ชาวร้อยเอ็ดจึงได้ยกเอา ฮีตเดือนสี่ “บุญผะเหวด” ให้เป็นประเพณีประจำจังหวัด ภายใต้ชื่องาน “มหาทานบารมี ประเพณีบุญผะเหวด” ถือได้ว่าเป็นงานบุญมหาชาติที่จัดได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีกิจกรรมตลอดทั้งวัน ส่วนราชการ ร้านค้า หน่วยงาน พร้อมใจกันทำอาหารมาเสิร์ฟ ทานฟรีทั้งเมือง โดยเฉพาะข้าวปุ้น หนึ่งในเมนูพื้นบ้านที่นิยมในงานบุญ ท้ายสุดเพื่อสืบทอดประเพณีความเชื่อ ทางจังหวัดได้งานแสงสีเสียงสื่อผสม ตำนานพระเวสสันดร “มหาชาดก ชาติที่ 10 มหาชาติ พระสัพพัญญู” ณ บริเวณลานสาเกต และเกาะกลางบึงพลาญชัย
ด้านรายละเอียดงานแสดง ละครเวที ประกอบ แสงสีเสียงสื่อผสม 4D ใช้ลูกหลานของชาว จ.ร้อยเอ็ด โดยมี คุณศุภกฤต ฉัตรจารุกุล ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ งาน CG Graphic ฉากประกอบการแสดงและอำนวยการสร้างบทและกำกับการแสดง โดย ธีรวัฒน์ เจียงคำ ศิลปินอิสระ ร่วมกับ อาจารย์พชญ อัครพราหม์ อาจารย์ประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์ ภาควิชาการแสดง มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วยนักแสดงหลักจากภาควิชาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนักแสดงร่วมจาก มาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ภาควิชาศิลปะการแสดง
ความพิเศษคือ การแสดงที่ต้องมีบทพูดเป็นภาษาอีสานโบราณ หรือ “ผญา” เป็นคำเก่าแก่ เนื้อเรื่องได้ดัดแปลงมาจากต้นฉบับของ อาจารย์มั่น จงเรียน ด้วยสัมผัสและความหมายของภาษาเก่าแก่ และคนอีสานปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว มันจึงยากมาก ๆ ทำอย่างไรนักแสดงจะเข้าใจตัวละคร สื่อสารกับผู้ชม-ผู้ฟัง และยังคงคุณค่าทางภาษา/วรรณกรรมที่งดงามนี้ไว้ โดยการแกะเนื้อหาชาดกจากใบลาน พร้อมอ่านเล่าเว่าผญาเป็นภาษาอีสานโบราณ เรื่องราวหรือชีวประวัติในอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า คือ สมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงนำมาเล่าให้พระสงฆ์ฟังในโอกาสต่าง ๆ เพื่อแสดงหลักธรรมสุภาษิตที่พระองค์ทรงประสงค์ มีหลายร้อยเรื่อง ทั้งว่าทรงเคยเกิดเป็นมนุษย์บ้าง เป็นสัตว์บ้าง แต่ที่รู้จักกันโดยทั่วไป คือ 10 ชาติสุดท้ายที่เรียกว่าทศชาติชาดก และชาติสุดท้ายที่สุดที่ทรงเสวยพระชาติเป็นพระเวสสันดร จึงเรียกเรื่องพระเวสสันดรนี้ว่า มหาเวสสันดรชาดก
นายบรรจง โฆษิตจีรนันท์ ชาวร้อยเอ็ดได้ยกเอา ฮีตเดือนสี่ “บุญผะเหวด” ให้เป็นประเพณีประจำจังหวัด ภายใต้ชื่องาน “มหาทานบารมี ประเพณีบุญผะเหวด” ถือได้ว่าเป็นงานบุญมหาชาติที่จัดได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึงจัดงานแสงสีเสียง นำเรื่องราวในชาติสุดท้าย 13 กัณฑ์ 1000 พระคาถา มาไว้ในรูปแบบการแสดงแสงสีเสียงสื่อผสมรายละเอียดแต่ละ กัณฑ์ อาทิ กัณฑ์ทศพร มี 19 พระคาถา กัณฑ์หิมพานต์ มี 134 พระคาถา กัณฑ์ทานกัณฑ์ มี 209 พระคาถา กัณฑ์วนประเวศน์ มี 57 พระคาถา กัณฑ์ชูชก มี 79 พระคาถา กัณฑ์จุลพน มี 35 พระคาถา กัณฑ์มหาพน มี 80 พระคาถา กัณฑ์กุมาร มี 101 พระคาถา กัณฑ์มัทรี มี 90 พระคาถา กัณฑ์สักกบรรพ มี 43 พระคาถา กัณฑ์มหาราช มี 69 พระคาถา กัณฑ์ฉกษัตริย์ มี 36 พระคาถา กัณฑ์นครกัณฑ์ มี 48 พระคาถา
สำหรับคนที่พลาดชมไปแล้ว ชมภาพสวยๆ ไปก่อน พร้อมไปเที่ยวกันใหม่ในงานบุญครั้งหน้า