“มาสเตอร์การ์ด” ลุยลงทุนธุรกิจฟินเทค “ดิจิเอเชีย” รอบ Series B เร่งขยายบริการทางการเงินให้ธุรกิจเอ็มเอสเอ็มอี ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 11, 2020 17:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค ดิจิเอเชีย ฟินเทคเชื้อสายอินโดนีเซีย สนับสนุนกลุ่มธุรกิจรายย่อม (MSMEs) ในอาเซียน พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในอาเซียน40 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุนในธุรกิจฟินเทคจำนวนราว 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐถูกนำมาลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้มาสเตอร์การ์ดได้ประกาศเป็นผู้ลงทุนหลักในบริษัทฟินเทคจากประเทศอินโดนีเซียที่มีชื่อว่า ดิจิเอเชีย ไบออส (Digiasia Bios) ให้การสนับสนุนการระดมทุนรอบซีรี่ย์บีทั้งด้านเงินลงทุนและการวางแผนธุรกิจเนื่องจากดิจิเอเซียต้องการพัฒนาและขยายบริการทางการเงินให้กับส่วนบุคคลและวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) เพื่อให้ธุรกิจกลุ่มนี้มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เจริญเติบโต ดิจิเอเชีย เป็นบริษัทในเครือของหลายบริษัทฟินเทคในประเทศอินโดนีเซีย ได้แก่ KasPro ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และแพลตฟอร์มการชำระเงิน KreditPro แพลตฟอร์มที่เน้นให้บริการด้านการเงินและการกู้ยืมระหว่างบุคคลกับบุคคล (P2P Lending) สำหรับกลุ่ม MSMEs ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินจากธนาคารได้ และ RemitPro ผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยผ่านช่องทางออนไลน์และเครือข่ายตัวแทนออฟไลน์ เช่น บริษัทโทรคมนาคม ที่ทำการไปรษณีย์และร้านค้าปลีก ซึ่งทุกบริการที่กล่าวมานั้นมีเทคโนโลยีเป็นตัวหนุนการดำเนินงานทั้งหมดเพื่อให้การทำธุรกรรมทางการเงินปลอดภัย รวมถึงช่วยตรวจสอบการยืมเงินที่มีความเสี่ยงและทำให้กลุ่ม MSMEs สามารถเข้าถึงเงินทุนได้ทั้งผ่านช่องทางออนไลน์และผู้ให้บริการโดยตรง การลงทุนครั้งนี้เกิดจากการที่รัฐบาลอินโดนีเซียและผู้ร่วมทุนของดิจิเอเชียให้ความสำคัญกับการให้บริการทางการเงินที่ครอบคลุมแก่ประชาชนเพราะอินโดนีเซียเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศต่างๆ ในภูมิภาคได้ให้ความสำคัญกับการนำฟินเทคมาประยุกต์ใช้ในการขยายการเข้าถึงบริการทางการเงินและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจอยู่ก่อนแล้ว จากรายงานที่เผยแพร่โดยธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ หรือธนาคารยูโอบี (UOB) ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) และสมาคมฟินเทคสิงคโปร์ (SFA) พบว่าจนถึงปลายเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา เงินทุนราว 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐถูกนำมาลงทุนในธุรกิจฟินเทคในภูมิภาคอาเซียน ขณะเดียวกันก็มีเงินทุนจำนวนมากถูกนำมาลงทุนในธุรกิจฟินเทคในประเทศไทย ซึ่งคิดเป็น 40% ของเงินทุนที่นำมาลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศไทย ดิจิเอเชียได้ร่วมมือกับหลายพันธมิตรในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนอินโดนีเซียเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมดำเนินงานกับผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะเพื่อให้ผู้เดินทางสามารถชำระค่าบริการได้ง่ายขึ้น รวมทั้งทำหน้าที่ให้บริการทางการเงินระหว่างองค์กรแก่ธุรกิจรายใหญ่อย่าง iRMA และ Metrodata ผ่านแพลตฟอร์ม KreditPro นอกจากนี้ ดิจิเอเชียยังได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศอย่างเวสเทิร์น ยูเนี่ยน และธนาคาร Mandiri Syariah รวมถึงช่วยจัดการซัพพลายเชนด้วยระบบดิจิทัลผ่าน DistroPro อีกด้วย ด้วยบริการต่างๆ ผ่านความร่วมมือเหล่านี้ ดิจิเอเซียสามารถให้บริการแก่ประชาชนที่ทั้งสามารถและไม่สามารถเข้าถึงบริการของธนาคาร รวมถึงกลุ่มประชาชนที่ทั้งสามารถและไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ นายอเล็กซานเดอร์ รูสลี และนายประซานท์ โกคาร์น ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทดิจิเอเชีย ไบออส กล่าวว่า “พวกเรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับมาสเตอร์การ์ดเพื่อขยายการเข้าถึงบริการทางการเงินในประเทศอินโดนีเซียให้ครอบคลุมมากขึ้นด้วยบริการที่มีอยู่ พวกเราคอยสร้างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อช่วยให้บริการของเราตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินของทั้งส่วนบุคคลและภาคธุรกิจ และด้วยความร่วมมือกับมาสเตอร์การ์ดครั้งนี้ทำให้พวกเรามีกำลังหนุนจากหนึ่งในผู้นำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำธุรกรรมซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการออนไลน์ พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินอันทรงพลังได้ไม่ว่าสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมจะเป็นอย่างไร และไม่ว่าจะสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้หรือไม่” นอกเหนือจากเงินลงทุน บริษัทฟินเทคที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับมาสเตอร์การ์ดยังจะสามารถประยุกต์ใช้เครื่องมือจากเครือข่ายธุรกิจ การทำธุรกรรมการเงินและความเชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) จากผู้นำด้านเทคโนโลยีการชำระเงินระดับโลกอย่างมาสเตอร์การ์ดได้อีกด้วย นายซาฟดาร์ คาน ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “การเข้าถึงบริการทางการเงินนั้นไม่ใช่แค่การธุรกรรมการเงินผ่านแอพมือถือหรือซื้อสินค้าออนไลน์ แต่ยังรวมถึงการเสาะหาวิธีการที่ง่ายในการเปิดกว้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับคนในทุกระดับสังคมเพื่อที่ทุกๆ คนจะสามารถเข้าถึงประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัลที่ทันสมัยขึ้น มาสเตอร์การ์ดมุ่งมั่นเป็นอย่างมากที่จะมองหานวัตกรรมและช่องทางใหม่ๆ เพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของประชาชน ดีขึ้น จึงเกิดเป็นความร่วมมือกับดิจิเอเชียและบริษัทที่คล้ายคลึงกันทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บริการทางการเงินได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของผู้คนมากมาย” การช่วยเหลือผู้คนให้มีบทบาทในด้านเศรษฐกิจของประเทศนับเป็นความมุ่งมั่นในระยะยาวของมาสเตอร์การ์ด นอกเหนือจากการร่วมงานกับบริษัทฟินเทค มาสเตอร์การ์ดยังจัดโครงการด้านการศึกษาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ โปรแกรม Mastercard Academy 2.0 ที่หวังจะช่วยสร้างบริการทางการเงินที่ครอบคลุมผ่านการอบรมทักษะและความรู้ด้านดิจิทัลที่สำคัญ รวมถึงโปรแกรม Girls4Tech ที่สนับสนุนเด็กผู้หญิงในการศึกษาสาขาวิชา STEM หรือสาขาวิชาที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์ เกี่ยวกับดิจิเอเชีย ไบออส (Digiasia Bios)ดิจิเอเชีย ไบออส เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินในประเทศอินโดนีเซียในเครือของบริษัทฟินเทคอย่าง KasPro (ผู้ให้บริการชำระเงินด้วยเงินอิเล็กทรอนิกส์) KreditPro (ผู้ให้บริการกู้ยืมระหว่างบุคคลกับบุคคล หรือ P2P Lending) และ RemitPro (ผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ) เป็นต้น โดยดิจิเอเชียมุ่งเน้นการร่วมมือกับผู้มีส่วนร่วมในระบบเศรษฐกิจเพื่อขยายบริการทางการเงินให้ครอบคลุมประเทศอินโดนีเซีย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.digiasia.asia เกี่ยวกับมาสเตอร์การ์ดMastercard (NYSE: MA) www.mastercard.com เป็นบริษัทเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการชำระเงินระดับโลก เครือข่ายการประมวลผลการชำระเงินทั่วโลกของเราเชื่อมต่อผู้บริโภค สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการ หน่วยงานรัฐบาล และธุรกิจในกว่า 210 ประเทศและดินแดนต่างๆ ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของมาสเตอร์การ์ดช่วยให้ธุรกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การจับจ่ายซื้อสินค้า การท่องเที่ยว การดำเนินธุรกิจ และการจัดการทางการเงิน เป็นเรื่องง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง สามารถติดตามเราได้บนทวิตเตอร์ @MastercardAP หรือร่วมสนทนากับเราที่ Beyond the Transaction Blog และ subscribe เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดผ่าน Engagement Bureau

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ