Dow ร่วมกับจังหวัดระยอง เปิดศูนย์เรียนรู้อีเอฟเต็มรูปแบบแห่งแรกของไทย มุ่งขยายผลพัฒนาเด็กไทยเป็นพลเมืองคุณภาพ

ข่าวทั่วไป Monday March 16, 2020 10:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--ดาว ประเทศไทย กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ร่วมกับจังหวัดระยอง และเทศบาลเมืองมาบตาพุด เปิดศูนย์เรียนรู้อีเอฟ จังหวัดระยอง (Rayong EF Center) ณ ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองมาบตาพุด ภายใต้โครงการ ดาว-อีเอฟ พัฒนาเยาวชนสู่ความสำเร็จ เพื่อระยองผาสุก ซึ่งถือเป็นศูนย์เรียนรู้เต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทยด้าน Executive Functions (EF) ช่วยเสริมสร้างทักษะสำคัญในการใช้ชีวิตและทำงานในศตวรรษที่ 21 เพื่อสร้างพลเมืองคุณภาพและวางรากฐานการพัฒนาทุนมนุษย์ของประเทศไทยอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน Dow เริ่มดำเนินโครงการฯ ในปี พ.ศ. 2559 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันชีวิตให้กับเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีทักษะในการจัดการชีวิต สามารถรับมือกับปัญหาและความเสี่ยงต่าง ๆ ในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการปรับใช้หลักการพัฒนาทักษะสมอง EF ในการเลี้ยงดูเด็กเริ่มตั้งแต่ปฐมวัยภายในครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ซึ่งจะช่วยสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและสร้างจังหวัดระยองให้เป็นเมืองต้นแบบแห่งความสุข อันเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพัฒนาบุคลากรของชาติให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ นายเดชา พาณิชยพิเชฐ ผู้อำนวยการโรงงานโรงงาน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “Dow ให้ความสำคัญกับการสร้างบุคลากรและส่งเสริมชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน อนาคตของประเทศจะพัฒนาไปในทิศทางใดนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของเยาวชนรุ่นใหม่ สมองคือศูนย์บัญชาการชีวิต เราจึงจำเป็นต้องพัฒนาทักษะสมอง EF และร่วมกันช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ของเยาวชนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คิดเป็น ทำเป็น หล่อหลอมพฤติกรรมให้ดีอย่างรอบด้าน และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข และพัฒนาคุณภาพเยาวชนไทยให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและการแข่งขันบนเวทีโลก” ศูนย์เรียนรู้อีเอฟ จังหวัดระยอง หรือ Rayong EF Center ณ ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองมาบตาพุด เป็นพื้นที่สาธารณะส่งเสริมการเรียนรู้ที่สำคัญของชาวระยอง ในการพัฒนาทักษะสมอง EF ให้กับเด็กทุกช่วงวัยและพ่อแม่ผู้ปกครอง ด้วยสื่อมัลติมีเดียและกิจกรรมแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับเด็กในแต่ละช่วงวัย โดยทุกกิจกรรมในศูนย์เรียนรู้จะช่วยพัฒนาทักษะ EF ของเด็กครบทั้ง 9 ด้าน อาทิ 'โรงละครอีเอฟ’ ซึ่งฝึกให้เด็กปรับตัวไปตามบทบาทที่แตกต่างไปจากตัวเอง และนำไปสู่ความเข้าใจคนอื่นและสามารถเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้ดีขึ้น 'ล้อเล่นแสงเงา’ ฝึกให้เด็กกล้าริเริ่ม มีจินตนาการซึ่งเป็นพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์ 'ปีนป่ายไต่เชือก’ ฝึกให้เด็กรู้จักวางเป้าหมายที่ต้องการจะไปให้ถึง ไม่วอกแวก สามารถควบคุมอารมณ์ข่มความกลัว และเกิดความภูมิใจในตัวเองเมื่อไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ ยังได้สอดแทรกเนื้อหาความรู้ท้องถิ่นของมาบตาพุดและจังหวัดระยองให้กับเด็กและผู้ปกครองได้เรียนรู้ในเวลาเดียวกัน โดยจะเปิดให้บริการฟรีแก่ประชาชนทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00 – 17.00 น. นายถวิล โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด ในฐานะเจ้าของพื้นที่ กล่าวว่า “ศูนย์เรียนรู้อีเอฟซึ่งเกิดจากความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม แห่งนี้ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จและความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างพื้นฐานที่ดีตั้งแต่แรกเริ่มให้กับคนรุ่นใหม่ ให้มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม อีกทั้งยังเป็นการขยายโอกาสให้ครู ผู้ปกครอง ได้มีการฝึกฝนและติดตามพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กอย่างต่อเนื่อง สร้างเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ด้าน EF อย่างมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมให้ลูกหลานชาวระยองของเราสามารถบริหารจัดการชีวิตได้อย่างมีเป้าหมาย” “นอกเหนือจากการสนับสนุนของรัฐบาลในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเตรียมความพร้อมประเทศเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 แล้ว การเตรียมความพร้อมทางด้านสังคมและการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชนในสังคมที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ทุกภาคส่วนมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างให้เด็กเป็น 'คนเก่ง’ และ 'คนดี’ ของสังคม อีกทั้งช่วยหล่อหลอมให้เด็กรู้จักกล้าแสดงออกในทางที่ถูก รู้จักริเริ่มลงมือทำเมื่อเกิดไอเดียใหม่ ๆ ไม่กลัวที่จะซักถามหรือตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว และกล้าที่จะค้นคว้าหาคำตอบ เป็นการวางรากฐานเพื่อสร้างวินัยเชิงบวกให้กับเยาวชนไทย” นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และประธานภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนโครงการฯ กล่าวสรุป ปัจจุบัน โครงการ “ดาว อีเอฟ พัฒนาเยาวชนสู่ความสำเร็จ เพื่อระยองผาสุก” มีหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วม 9 แห่ง สถานศึกษาเข้าร่วม 191 แห่ง สถานสาธารณสุข 119 แห่ง ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีแกนนำวัคซีนชีวิตแล้วทั้งสิ้นกว่า 900 คน ซึ่งได้ร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนากิจกรรมส่งเสริมอีเอฟสู่ผู้ปกครองกว่า 10,000 คน ซึ่งความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นว่าการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพสูงจะช่วยขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะในอนาคตที่มีแนวโน้มการแข่งขันสูง ดังนั้นความมุ่งมั่นจดจ่อ และรู้จักผลักดันตนเองไปสู่เป้าหมายชีวิต ด้วยการใช้สติคิดไตร่ตรอง จะทำให้เยาวชนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล และสามารถประสบความสำเร็จในระยะยาวได้อย่างมีความสุข

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ