กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--มหาวิทยาลัยมหิดล
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังมีการระบาดของไวรัส COVID – 19 ในระยะที่ 2 ซึ่งมีการติดต่อจากผู้ที่เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยต่างหวังให้การเข้าสู่ระยะที่ 3 เกิดขึ้นช้าที่สุด
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เรืออากาศโท ทันตแพทย์ชัชชัย คุณาวิศรุต รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหิดลได้แสดงความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ออกมาตรการเฝ้าระวัง โดยให้ความสำคัญในเรื่องการสื่อสารให้ข้อมูลกับนักศึกษาเป็นอันดับแรก เพราะตระหนักดีว่าข่าวลือจะสร้างความเสียหายได้มากกว่า โดยมีการสื่อสารทั้งผ่านทางเว็บไซต์ และสื่อออนไลน์ด้วยข้อมูลแบบ infographic ที่เข้าใจง่าย และผ่านทางแอปพลิเคชัน We Mahidol ที่คอยป้อนข้อมูลที่เชื่อถือได้ ซึ่งรวมถึงคำสั่ง ข้อบังคับ ประกาศที่จำเป็น ตลอดจนมีการป้องกันการแพร่เชื้อของโรค ทำความสะอาดพื้นที่ต่างๆ ทั้งในห้องเรียน และสถานที่ต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัย ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด ร่วมด้วยการรณรงค์ให้มีการล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการชุมนุม รวมทั้งให้เลื่อนการจัดกิจกรรมต่างๆ ออกไปก่อนในช่วงนี้ ซึ่งสำหรับนักศึกษาที่กลับมาจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูง แล้วพบว่ามีอาการ มหาวิทยาลัยได้จัดให้มีสายด่วนให้คำปรึกษาแก่นักศึกษาและผู้ปกครอง และมีการส่งต่อนักศึกษาที่เข้าข่ายเฝ้าระวังไปยังหน่วยการแพทย์ที่อยู่ในพื้นที่อย่างมีระบบชัดเจน จากนั้นให้นักศึกษาที่เข้าข่ายเฝ้าระวังได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการกักกันโรคตามหลักของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับแผนการเรียนการสอนในระยะยาว ทางมหาวิทยาลัยได้เริ่มใช้ระบบ Webex สำหรับให้นักศึกษาสามารถเรียนออนไลน์ได้อีกด้วย
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีการจัดสอบกลางภาคสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี ทั้งที่วิทยาเขตพญาไท และศาลายา โดยได้จัดให้มีการคัดกรองนักศึกษาก่อนเข้าบริเวณสอบอย่างเป็นระบบ ซึ่ง รองศาสตราจารย์ ดร.พลังพล คงเสรี คณบดี ได้กล่าวให้ความเชื่อมั่นว่า ทางคณะฯ ได้สนองมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัส COVID – 19 อย่างเต็มที่ โดยประกาศให้นักศึกษาเดินทางมาถึงสถานที่จัดสอบก่อนการสอบประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อเข้าทำการคัดกรองโดยใช้การวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสอบ ซึ่งใช้เวลาต่อคนประมาณ 10 วินาที เนื่องจากนักศึกษาที่เข้าสอบมีจำนวนมากถึง 8,000 คน จึงต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงในการคัดกรองทั้งหมด 8 จุด ด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิทั้งหมด 15 เครื่องจากภายในคณะฯ และหน่วยงานพันธมิตร โดยแต่ละจุดคัดกรองได้แบ่งนักศึกษาออกเป็น 3 แถว และมีการจำกัดทางเข้า-ออกทางเดียว ซึ่งหลังจากที่ตรวจวัดไข้ในเบื้องต้น และดูว่าไม่มีอาการไอ จะติดสติกเกอร์ผ่านให้นักศึกษาตามสีประจำวัน โดยต่อไปจะได้มีการพัฒนานวัตกรรม Thermal Imaging Camera หรือ กล้องตรวจวัดความร้อน ที่ใช้เหมือนกับที่ในสนามบิน ซึ่งพัฒนาขึ้นเองจากอุปกรณ์ที่มีอยู่มาประกอบให้เป็นระบบ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เรืออากาศโท ทันตแพทย์ชัชชัย คุณาวิศรุต รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวฝากทิ้งท้ายว่าไม่ควรจะตื่นตระหนกกันจนลืมไปว่า ทุกวันนี้หน้ากากอนามัยขาดตลาด ส่วนหนึ่งเกิดจากความตระหนก จนเกิดการขาดแคลนในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่น บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานโรงพยาบาล ที่ต้องทำหน้าที่ดูแลสุขภาพและชีวิตของผู้ป่วย เราสามารถช่วยให้ประเทศชาติผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ โดยผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ หรืออยู่ในสังคมที่ไม่ได้ใกล้ชิดผู้ป่วย หรืออยู่ในกลุ่มคนแออัด อาจเลือกใช้หน้ากากผ้าทดแทน ซึ่งที่ผ่านมา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แสดงความห่วงใยต่อสังคม โดยได้มีการจัดกิจกรรมเย็บหน้ากากผ้าใช้เอง และสอนผลิตแอลกอฮอล์เจลล้างมือ สูตรเข้มข้น 70% เพื่อทดแทนปัญหาความขาดแคลน ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.sc.mahidol.ac.th