กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รัฐมนตรีเกษตรฯ เซ็นประกาศมาตรการเฝ้าระวังป้องกัน และการเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์การระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมดำเนินการตามมาตรการเยี่ยวยา เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดและสถานการณ์ภัยแล้ง
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์โรคติดเชื่อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน) ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้ลงนามในประกาศมาตรการเฝ้าระวังป้องกัน และการเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์การระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ประกอบไปด้วยมาตรการป้องกัน และมาตรการควบคุมและจำกัดการแพร่ระบาด เพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น
สำหรับมาตรการป้องกัน ได้มีการห้ามข้าราชการ พนักงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ เดินทางไปต่างประเทศ ยกเว้นมีเหตุจำเป็นสำคัญและเตือนประชาชนให้งดการเดินทางไปในประเทศซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง ลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ เช่น คัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้าอาคาร การวางเจลล้างมือในจุดที่มีการใช้ร่วมกัน การทำความสะอาดพื้นผิวและห้องสุขา จำกัดจำนวนคนเข้าใช้บริการในแต่ละช่วงเวลา รณรงค์ให้บุคลากรสวมใส่หน้ากากผ้า เมื่อเดินทางเข้าสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังให้ลดความแออัดของสถานที่ทำงาน โดยเหลื่อมเวลาทำงาน เหลื่อมเวลาพักรับประทานอาหาร และจัดที่นั่งให้ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ร้านค้า ร้านอาหาร ให้มีมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อ เช่น การทำความสะอาดพื้นที่ผิวสัมผัส ห้องสุขา การคัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน การดูแลสุขภาพและป้องกันการติดเชื้อของพนักงาน เช่น ใช้หน้ากากผ้า การจัดเจลล้างมือ และการจัดการขยะ อีกทั้งให้งดกิจกรรมรวมคนจำนวนมากที่ เช่น การจัดประชุมสัมมนา และจัดงานแสดงสินค้าเกษตร งดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายบุคลากรจำนวนมากข้ามจังหวัด เป็นต้น
ในส่วนของมาตรการควบคุมและจำกัดการแพร่ระบาดกรณีมีบุคลากรในสังกัดเข้าข่ายต้องสังเกตอาการ 14 วัน ให้รายงานสถานการณ์และวิธีการควบคุมของหน่วยงาน และให้หน่วยงานกำหนดแนวปฏิบัติให้บุคลากรปฏิบัติงานที่บ้านหรือนอกสถานที่ตั้งของหน่วยงาน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 โดยส่งเสริมให้ประสานงานและรายงานผลปฏิบัติงานผ่านระบบอินเทอร์เน็ต รวมถึงการประชุมทางไกล
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) จัดตั้งคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันโรคตามนโยบายของรัฐบาล โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและภูมิภาคพิจารณาศึกษาแนวทางการทำงานที่บ้าน อีกทั้งเตรียมระบบสนับสนุนการทำงานแบบประชุมทางไกลหรือระบบต่าง ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กำหนดประเภทงานและข้าราชการ เจ้าหน้าที่ผลัดเวรให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเฉพาะที่จำเป็นเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้มาติดต่อราชการ และมอบหมายงานที่จะให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติภายในที่พักอาศัย โดยจะมีการกำหนดเป้าหมาย ตัวชี้วัด รูปแบบการติดต่อสื่อสาร การติดตามประเมินความก้าวหน้า และการรายงานผลการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้ขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการตามมาตรการเยี่ยวยา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และสถานการณ์ภัยแล้ง โดยใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 งบกลาง รายการเงิน สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน 17,310.4509 ล้านบาท ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับการจัดสรรกรอบวงเงิน 2,924.5250 (6 หน่วยงาน) จำแนกเป็น โควิด-19 จำนวน 45.0372 ล้านบาท และภัยแล้ง จำนวน 2,879.4878 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากกรอบวงเงินงบประมาณดังกล่าว หากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2563 หรือใช้จ่ายงบประมาณจากแหล่งเงินอื่น ก็ขอให้เร่งดำเนินการและรายงานการปรับแผนงาน/งบประมาณ และแผนการปฏิบัติงานต่อไป ทั้งนี้ ให้มีการรายงานผลการดำเนินงาน ภายในเวลา 12.00 น. ทุกวัน เพื่อเก็บเป็นข้อมูลต่อไป