กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) หรือ TPLAS ฝ่าวิกฤตโควิค - 19 เดินหน้าตอกย้ำไตรมาสแรกยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แม้บรรจุภัณฑ์อาหาร “B-LEAF” ดีเลย์ ในการทำตลาดออกไปเป็นเมษายนนี้ แต่ยอดออเดอร์ถุงพลาสติก ประเภทถุงร้อน และ ถุงหูหิ้ว ยังมีดีมานด์ เห็นได้จากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมายอดคำสั่งซื้อมีต่อเนื่อง
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “ไวรัสโคโรนา 2019” หรือ “โควิด-19 ที่กินระยะเวลานาน จนครบรอบ 1 ไตรมาส ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทผู้ประกอบการในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องสรุปภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาสแรกของปี2563 ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า วิกฤตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจเชิงมหาภาค ทั้งการลงทุน ทั้งระบบเศรษฐกิจ รวมถึงภาคตลาดทุน เนื่องจากทุกอย่างถูกเชื่อมโยงเป็นลูกโซ่ จนทำให้หลายๆธุรกิจอุตสาหกรรม มีความจำเป็นจะต้องกำหนดนโยบายหาทางออก เพื่อความอยู่รอดขององค์กรและธุรกิจ ในการฝ่าวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้
นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด(มหาชน) หรือ TPLAS ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหาร และ ถุงหูหิ้ว ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ “หมากรุก” และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ “ Vow Wrap” และบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษบรรจุอาหาร จากเยื่อไผ่ ภายใต้แบรนด์ “B-LEAF” เปิดถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ว่า จากการประเมินภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 1/2563 ของ TPLAS ยังดำเนินการไปตามปกติ โดยเบื้องต้นบริษัทฯประมาณอัตราการเติบโตในไตรมาสแรก จะเป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้ แม้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 จะส่งผลต่อการขนส่งวัตถุดิบ เพื่อการผลิตทำให้แผนการผลิตกล่องกระดาษบรรจุอาหารทำให้ล่าช้า ออกเป็นเดือนเมษายน-พฤษภาคม ที่คาดว่าจะผลิตอยู่ที่ 650,000 ใบต่อเดือน จากแผนเดิมที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเดินเครื่องผลิตสินค้ากล่องบรรจุอาหารได้ในเดือนมีนาคมนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเห็นได้ในช่วงครึ่ง ปีหลัง อาทิ ผลิตภัณฑ์ประเภทชาม และผลิตภัณฑ์ประเภทถ้วยกระดาษ ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะส่งผลให้มียอดขายจากผลิตภัณฑ์แบรนด์ “B-LEAF “ ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ในปีนี้ประมาณ 30 ล้านบาท
“การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทฯ เพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการในส่วนของการทำงานของมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานที่ต้องการมีการเดินทาง ก็จะมีการแนะนำการป้องกันตัวเอง และในส่วนของการผลิตโรงงานของบริษัทฯ ได้รับมาตรฐานด้านผลิตที่มีระบบฆ่าเชื้อก่อนเข้าโรงงาน และก่อนออกจากโรงงาน รวมทั้งในระหว่างการปฏิบัติงานมีการใช้หน้ากาก หมวกเก็บผมอย่างรัดกุมที่สุด จึงมั่นใจได้ว่าโรงงานของ TPLAS ปลอดภัยในการผลิตแน่นอน”
ในส่วนของภาพรวมธุรกิจบรรจุภัณฑ์ถุงบรรจุอาหาร และ ถุงหูหิ้ว ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ “หมากรุก” และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ “Vow Wrap” นั้น กรรมการผู้จัดการ TPLAS กล่าว ว่า ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ถุงพลาสติก ประเภทถุงบรรจุอาหาร และ ถุงหิ้ว ยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ยังคงมียอดคำสั่งซื้อจากตัวแทนจำหน่าย ( ยี่ปั่ว ซาปั่ว ) อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่หวือหวา เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ เพราะมองว่าถุงพลาสติก ยังมีความต้องการใช้ในกลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่ ที่มีชีวิตจับจ่ายใช้สอยในตลาดสด อาทิ อาหารสด หรือแม้แต่อาหารร้อน ที่สำคัญสามารถตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคได้มากที่สุด
นายธีระชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับปี 2563 นี้ แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ก็ตาม แต่บริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นว่าด้วยธุรกิจอุตสาหกรรมของ TPLAS ได้รับผลกระทบไม่มากนักเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ทำให้ บริษัทฯ มองว่ายังสามารถเติบโตได้ซึ่งสัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหาร ถุงหูหิ้ว และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ประมาณ 95% และในส่วนกล่องกระดาษบรรจุอาหาร ประมาณ 5% ส่วนหนึ่งมาจากการปรับกลยุทธ์แบบเชิงรุก โดยการเพิ่ม ไลน์ผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่รักษ์สิ่งแวดล้อมจะเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯในอนาคตได้เพิ่มขึ้น