กรุงเทพฯ--26 มี.ค.--มิกซ์ แอนด์ แมทซ์ คอมมิวนิเคชั่นส์
ถือเป็นสาวงามจากเอเชียเพียงหนึ่งเดียวที่เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ในเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2019 ที่มากด้วยความสามารถครบทุกด้านจริงๆ แต่ในด้านชีวิตส่วนตัวแล้วต้องบอกว่า “ฟ้าใส–ปวีณสุดา ดรูอิ้น” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ใช้ชีวิตเรียบง่าย เพราะแม้จะได้รางวัลรถยนต์จากกองประกวด แต่ปัจจุบันเธอก็ยังเลือกใช้รถบริการขนส่งสาธารณะ จนเข้าตา องค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ TBCSD ต้องรีบคว้าตัวมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ร่วมรณรงค์ “ช่วยกัน ลดฝุ่น PM2.5 เปลี่ยนฟ้าหลัวเป็นฟ้าใส ไร้มลพิษกับฟ้าใส TEI และ TBCSD” ผ่านคลิปวิดีโอ “ฟ้าใส ไร้มลพิษ กับ TBCSD และ TEI” ซึ่งจะเริ่มออกอากาศให้ได้รับชมกันเร็วๆ นี้ ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ต่อไป
ลองมาฟัง “ฟ้าใส” พูดถึงวิกฤตฝุ่นพิษ PM2.5 และแนวทางแก้ไขกันบ้าง
“ตอนนี้ทุกคนในสังคมเมืองต่างตื่นตัวและได้เริ่มรู้จักฝุ่น PM2.5 กันแล้วตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา ถึงแม้ตอนนี้ปัญหาจะเบาบางลงแล้ว แต่เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะวนเวียนกลับมาอีกครั้งในช่วงหน้าหนาว หากเราทุกคนไม่ร่วมมือแก้ไขปัญหากันอย่างจริงจัง ซึ่งทุกวันนี้ทุกคนทำได้แค่ป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย และรับฟังข้อมูลการวัดค่าฝุ่น PM 2.5 จากช่องทางต่างๆ เท่านั้น แต่วิธีการดังกล่าวเป็นเพียงการรับมือกับปัญหาที่ปลายทาง ฟ้าใสคิดว่าเมื่อเราได้เรียนรู้และเข้าใจถึงสาเหตุ และแหล่งกำเนิดของฝุ่น PM 2.5 เราก็ควรกลับไปแก้ไขปัญหาที่ต้นทาง นั่นคือ การลดการระบายฝุ่น PM2.5 จากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ อาทิ ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลและหันกลับมาใช้บริการรถสาธารณะ การหยุดเผาเศษวัสดุทางการเกษตรและขยะ การเลือกใช้น้ำมันที่เป็น Bio-based หรือก๊าซธรรมชาติ และการหมั่นตรวจเช็คสภาพรถและเครื่องยนต์อยู่เสมอ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในส่วนขององค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ TBCSD ซึ่งมีสมาชิกเป็นกลุ่มธุรกิจหลักต้นแบบด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยกว่า 40 องค์กร ยังได้ร่วมกันกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนมาตรการเพื่อรับมือกับ PM2.5 รวมถึงการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคธุรกิจด้วยกัน เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM2.5 ที่เป็นรูปธรรมและเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน เพื่อให้ฟ้าใสไร้มลพิษอีกครั้งค่ะ” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 กล่าวทิ้งท้าย