กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์
ตามที่
บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM
ได้เตรียมการที่จะจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นภายในเวลา 4 เดือนนับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัทตามที่กฎหมายกำหนด แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น
รวมทั้งกระจายไปในวงกว้าง ประกอบกับผู้ถือหุ้นของบริษัทมีจำนวนมาก จึงเป็นการยากที่จะหาสถานที่จัดประชุมซึ่งเหมาะสมสามารถรองรับการจัดที่นั่งให้มีระยะห่างประมาณ
1-2 เมตร ตามมาตรการ Social
Distancing ของกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งรัฐบาลได้ขอความร่วมมือภาคเอกชนให้พิจารณาความจำเป็นในการจัดกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นการรวมกันของคนหมู่มาก
เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาด บริษัทมีความห่วงใยต่อสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของผู้ที่จะเข้าร่วมประชุม
ผู้ร่วมงานทุกท่าน และพนักงาน นอกจากนี้ ตามประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่องมาตรการรองรับการแพร่ระบาดของโรค
COVID-19 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจัดประชุมของนิติบุคคล
พ.ศ. 2563 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563 กำหนดให้บริษัทมหาชนจำกัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว จนทำให้เกิดเหตุขัดข้องไม่สามารถจัดประชุมหรือจัดประชุมล่าช้าเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
เมื่อได้ดำเนินการจัดประชุมแล้ว ให้มีหนังสือชี้แจงเหตุผลยื่นต่อนายทะเบียนเป็นรายกรณีไป
ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 จึงมีมติดังนี้
1. อนุมัติปรับแผนกำหนดการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
ประจำปี 2563 โดยยังไม่กำหนดวันและเวลาการจัดประชุมจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
และมีความเหมาะสม คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณากำหนดวันประชุมโดยเร็ว และจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไป
ทั้งนี้ การที่ยังไม่กำหนดให้มีการจัดประชุมดังกล่าวไม่ส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
และไม่กระทบต่อสิทธิในการรับเงินปันผลของผู้ถือหุ้น
2. อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานปี
2562 ตามงบการเงินล่าสุด สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ที่ได้รับการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีของบริษัทแล้ว
ในอัตราหุ้นละ 1.05 บาท รวมเป็นเงินปันผลที่จ่ายทั้งสิ้น
3,393,644,415 บาท โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ
ณ วันที่กำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 9 เมษายน 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 เมษายน 2563
คณะกรรมการบริษัทพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแทนการจ่ายเงินปันผลประจำปีตามที่จะเสนอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติ เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้นจากการที่ยังไม่มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ทั้งนี้ คณะกรรมการจะไม่เสนอจ่ายเงินปันผลประจำปี 2562 อีก และจะรายงานต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อรับทราบการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าวต่อไป
อย่างไรก็ดี
บริษัทจะติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างใกล้ชิด รวมถึงพิจารณาทางเลือกอื่นๆ ที่เหมาะสมในการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นให้สอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนดต่อไปโดยเร็ว
เกี่ยวกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
บริษัทบริหารสินทรัพย์
กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (“BAM” หรือ “บริษัทฯ”)
เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยพิจารณาจากสินทรัพย์รวม
(ที่มา: รายงานภาวะอุตสาหกรรมซึ่งจัดทำโดยบริษัท อิปซอสส์ จำกัด) โดยเปิดดำเนินการมาแล้วกว่า 20 ปี
เป็นรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2541
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายของธนาคารกรุงเทพฯ
พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) (BBC) ต่อมาบริษัทฯ
ได้ขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจเพื่อให้ครอบคลุมการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายที่ได้มาจากสถาบันการเงินอื่น
รวมถึงธนาคารและบริษัทบริหารสินทรัพย์อื่น ทั้งนี้ ปัจจุบัน
BAM มีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ
45.6 – 49.1 (ขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินใช้สิทธิซื้อจากบริษัทฯ)
บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ในการ “มุ่งสู่การเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ดีที่สุดของประเทศ” ทั้งนี้ บริษัทฯ ประกอบธุรกิจใน 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ (ก) ธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และ (ข) ธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย ผ่านเครือข่ายสำนักงานใหญ่ และสาขาครอบคลุมทั่วประเทศจำนวนรวม 26 แห่ง โดย BAM เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีสาขามากที่สุดในประเทศ (ที่มา: รายงานภาวะอุตสาหกรรมซึ่งจัดทำโดยบริษัท อิปซอสส์ จำกัด)