กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ออกมาตรการเยียวยาโควิด-19 พักหนี้ค้างชำระและขยายระยะเวลาผ่อนนาน 6 -12 เดือน แก่ลูกหนี้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย 7 กลุ่ม อาทิ อาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย โดยผู้ประกอบการที่เข้าข่ายต้องได้รับผลกระทบโควิด-19 สามารถยื่นคำร้อง 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าว จะเป็นการบรรเทาและป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) เริ่มส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจที่มีอัตราการขยายตัวลดลง ดังนั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โดยคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย ได้วางมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เป็นลูกหนี้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทยอย่างเร่งด่วน โดยได้ออกมาตรการและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาทิ ยอดขายลดลง รวมทั้งถูกยกเลิกการสั่งซื้อสินค้า หรือกระทั่งไม่สามารถผลิตสินค้าเนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบสำหรับการผลิต สามารถยื่นรับคำขอความช่วยเหลือ เพื่อพักค้างชำระหรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ในช่วงระยะเวลาวิกฤติดังกล่าว
นายณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการเยียวยาโควิด-19 “พักหนี้ค้างชำระ – ขยายระยะเวลาผ่อน” เป็นมาตรการเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือธุรกิจของผู้ประกอบการสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ โดยกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในครอบครัวและผู้ประกอบการหัตถกรรมไทยที่ครอบคลุมธุรกิจ 7 ประเภท ที่อาจได้รับผลกระทบ ได้แก่ 1. ประเภทอาหาร 2. ประเภทเครื่องดื่ม 3. ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย 4. ประเภทของใช้และเครื่องประดับตกแต่ง 5. ประเภทศิลปประดิษฐ์และของที่ระลึก 6. ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่ยาและอาหาร 7. อื่นๆ
ซึ่งคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่สามารถยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1. ลูกหนี้ที่ไม่มีหนี้ค้างชำระ สามารถยื่นพักชำระหนี้เงินต้นได้ไม่เกิน 12 เดือน หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้จากสัญญากู้เงินเดิมได้ไม่เกิน 12 เดือน 2. ลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระไม่เกิน 3 งวด โดยต้องนำเงินมาชำระดอกเบี้ย และหรือดอกเบี้ยระหว่างผิดนัด (เบี้ยปรับ) ที่ค้างชำระก่อนเข้าร่วมมาตรการ สามารถยื่นพักชำระหนี้เงินต้นได้ไม่เกิน 6 เดือน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้จากสัญญากู้เงินเดิมได้ไม่เกิน 6 เดือน โดยทั้ง 2 กรณี ชำระเพียงแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น ทั้งนี้ เปิดโอกาสให้ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2563
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่เป็นลูกหนี้เงินทุนหมุนเวียนฯ ของ กสอ. จำนวนกว่า 2,500 ราย กรอบวงเงินให้กู้ทั้งหมด 396.717 ล้านบาท เฉลี่ยให้กู้รายละ 200,000 บาท ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัด โดยมีลูกหนี้ที่เป็นลูกหนี้เดิมและมีสิทธิ์ขอเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ จำนวนทั้งสิ้น 771 ราย วงเงินกู้รวมกว่า 177,669,000 บาท กระจายอยู่ในพื้นที่ 73 จังหวัด จำแนกเป็น 1. ลูกหนี้ชำระปกติ (ไม่ค้างชำระ) มีสิทธิ์ขอพักชำระหนี้เงินต้นและมีสิทธิ์ขอขยายระยะเวลาชำระหนี้ได้ไม่เกิน 12 เดือน จำนวน 577 ราย วงเงินรวมกว่า 133,746,000 บาท และ 2. ลูกหนี้ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน มีสิทธิ์ ขอพักชำระหนี้เงินต้นและมีสิทธิ์ขอขยายระยะเวลาชำระหนี้ได้ไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 194 ราย วงเงินกว่า 43,923,000 บาท ขณะเดียวกันผู้ขอกู้รายใหม่สามารถขอยื่นกู้โดยขอใช้มาตรการปลอดเงินต้นไม่เกิน 12 เดือน ตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนฯ กำหนดไว้แล้ว นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มบริหารเงินทุนหมุนเวียน สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2202 4409 หรือ เข้าไปที่ www.dip.go.th