กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังจากได้รับการฝึกอบรมโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเชื่อมโยงเครือข่ายและการบริหารจัดการซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ และโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตและการตลาดสู่ซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจการบริหารจัดการ การดำเนินธุรกิจร้านค้า สหกรณ์ ในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมบูรณาการการทำงานกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อดำเนินการกระจายสินค้าเกษตรที่ดีและมีคุณภาพ ภายใต้โครงการ "ซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ "ได้ประสานไปยังสหกรณ์การเกษตรในทุกจังหวัด กว่า 1,300 แห่ง ที่เป็นผู้ผลิตสินค้า ทั้งข้าวสาร นม ไข่ไก่ ผักผลไม้ และอาหารแปรรูป ให้เปิดจุดจำหน่ายสินค้าราคายุติธรรมให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ หลังรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่มีความต้องการซื้อข้าวสาร อาหารแห้งไปเก็บไว้บริโภคระหว่างอาศัยอยู่ในบ้านพัก รวมถึง ศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ อีก 120 แห่งทั่วประเทศ และสหกรณ์ร้านค้า 100 แห่ง และซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีก 10 แห่ง ได้ประสานกับสหกรณ์ผู้ผลิตสินค้าต้นทางส่งข้าวสาร นม ไข่ไก่ ผักผลไม้ รวมถึงจัดหาสินค้าอุปโภค ทั้งปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กาแฟ น้ำปลา น้ำมันพืช น้ำตาล น้ำดื่ม และหน้ากากอนามัย มาบริการเพื่อจำหน่ายให้กับผู้บริโภคอีกด้วย