กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--วิริยะประกันภัย
วิริยะประกันภัยประกาศความพร้อมในการให้บริการสินไหมทดแทน หลังหลายจังหวัดใช้มาตรการเคอร์ฟิวส์ เผยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการแก่ลูกค้า มั่นใจได้ว่ารถทุกคันเคลมสินไหมได้ตามปกติ ทั้งความเสียหายของรถยนต์คันที่เอาประกันและความเสียหายต่อบุคคลภายนอก เฉพาะพื้นที่กทม.ปริฆณฑล มีเทคโนโลยีใหม่รองรับ “เคลมผ่านจอมือถือ” ส่วนต่างจังหวัดกำลังเร่งติดตั้งระบบ คาดครึ่งปีหลังเริ่มให้บริการ
นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่หลายจังหวัดเริ่มบังคับใช้มาตรการห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานตามเวลาที่กำหนดไว้หรือที่เรียกกันว่ามีการประกาศเคอร์ฟิว บริษัทฯขอยืนยันว่าภาวะการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีผลใดๆต่อการให้บริการผู้เอาประกันภัย เพราะบริษัทฯได้มีมาตรการในการบริหารจัดการการดำเนินงาน ทั้งในส่วนของการบริหารจัดการบุคลากรภายในองค์กรให้รองรับต่อการให้บริการแก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการอย่างเต็มประสิทธิภาพและเป็นธรรมที่สุด โดยเฉพาะกรณีการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขอให้ลูกค้าวิริยะประกันภัย เชื่อมั่นได้ว่า เมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น กรมธรรม์ประกันภัยจะยังคงให้ความคุ้มครองตามปกติทั้งความเสียหายของรถยนต์คันที่เอาประกันและความเสียหายต่อบุคคลภายนอก
“แม้ว่ารถยนต์ไปเกิดเหตุในช่วงที่ราชการห้ามออกนอกเคหสถาน
แต่ความผิดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความผิดส่วนบุคคลที่ฝ่าฝืนประกาศภาวะฉุกเฉิน
และในเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เองก็ไม่ได้กำหนดเป็นขอยกเว้นไว้ว่าไม่คุ้มครอง
บริษัทประกันภัยผู้รับประกันรถยนต์คันนั้นๆต้องให้ความคุ้มครองไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
ในขณะเดียวกันการออกไปให้บริการของพนักงานเคลมยังทำได้เหมือนภาวะปรกติ
ไม่ถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรการเคอร์ฟิวเพราะถือว่าออกไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในขณะเดียวกันแม้ว่าในอนาคตอันใกล้
ภาครัฐอาจยกระดับมาตรการป้องกันด้วยการประกาศเคอร์ฟิวทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พนักงานของวิริยะประกันภัยก็ยังสามารถให้บริการได้
โดยเฉพาะพนักงานเคลมสามารถ work from home ได้โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว เพราะปัจจุบันบริษัทฯ ได้ใช้ระบบวิริยะสมาร์ทเคลม(
VSC) และระบบงาน V-Surveyor เข้าสู่ระบบงานสินไหมทดแทนทั่วประเทศ
ซึ่งเป็นระบบที่ผู้บริหาร ผู้ควบคุม พนักงานระดับปฎิบัติการณ์สามารถสั่งการ จ่ายงาน
ติดตามงาน ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว แม้ว่าคนสั่งหรือผู้ปฎิบัติต้องอยู่ที่บ้าน”
นายสยม กล่าวต่อไปอีกว่า อย่างไรก็ตามเฉพาะในเขตพื้นที่กทม.และปริฆณฑล
ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเคอร์ฟิวหรือในห้วงเวลาปรกติก็ตามที
ผู้เอาประกันภัยยังสามารถเลือกใช้บริการ”เคลมรถยนต์ผ่านจอมือถือ” ซึ่งเป็นนวัตกรรมบริการการตรวจสอบอุบัติเหตุแบบเรียลไทม์
ภายใต้ชื่อ “VClaim on VCall” หรือ “บริการเคลมนัดหมายผ่านวิดีโอคอล” เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้เอาประกันภัย
ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการตรวจสอบสภาพรถยนต์
โดยผู้เอาประกันภัยสามารถนัดหมายการเคลมในวันเวลา
ซึ่งถือเอาตามความสะดวกของผู้เอาประกันภัยเป็นหลัก
และยังสามารถรับบริการได้ทันทีโดยไม่ต้องรอพนักงานเคลมไปยังจุดนัดหมาย
สำหรับกระบวนการให้บริการ เคลมนัดหมายผ่านวิดีโอคอล
เมื่อมีการนัดหมายเกิดขึ้นผ่านระบบสายด่วน 1557
และลูกค้าพร้อมที่จะวิดีโอคอล เจ้าหน้าที่จะส่ง SMS แจ้งยืนยันกับลูกค้าก่อน
จากนั้นเมื่อลูกค้าตอบรับการบริการผ่านวิดีโอคอลแล้ว จึงจะดำเนินการพูดคุยต่อไป
แต่หากลูกค้าปฏิเสธการทำวิดีโอคอล เพราะไม่สะดวก หรือ สัญญาณอินเตอร์เน็ตขัดข้อง
หรือโทรศัพท์ไม่รองรับการใช้งาน ก็ยังสามารถเลือกใช้วิธีการนัดเคลมรูปแบบเดิมได้
ทั้งนี้ในส่วนของข้อมูลทั้งวิดีโอบันทึกการสนทนาหรือภาพที่มีการถูกถ่ายขณะสนทนาจะถูกจัดเก็บอย่างเหมาะสมและมีความปลอดภัย
อีกทั้งระบบยังมีการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล
เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลได้
“ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ริเริ่มระบบบริการดังกล่าวมาตั้งแต่ปลายปี 2562 ซี่งในปัจจุบันสามารถให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเขตพื้นที่กทม.และปริฆณฑล
ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดคาดว่าน่าจะเริ่มใช้ได้ในครึ่งปีหลัง
และต้องขอยืนยันอีกครั้งว่า
บริษัทฯมีความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีที่จะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
เพียงแจ้งความต้องการผ่านทางสายด่วน 1557 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”นายสยม กล่าวในที่สุด
**ตัวอย่างการบริการเคลมนัดหมายผ่านระบบวิดีโอคอลล์ “VClaim on VCall” ***
https://www.youtube.com/watch?v=ERw9FQISjY8