![เตือนชาวสวนไม้ผลระวังเพลี้ยแป้งทุเรียนระยะใกล้เก็บเกี่ยวช่วงฤดูแล้ง]()
กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--
กรมส่งเสริมการเกษตร
นาย
อาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร รองอธิบดี
กรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะประธานศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยแล้งด้านการเกษตร ปี 2563
กรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งปลูก
ทุเรียนที่มีคุณภาพดี เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ แหล่งปลูก
ทุเรียนที่สำคัญของไทยมีหลายภาคโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ภาคตะวันออก เช่น ระยอง จันทบุรี และตราด และภาคใต้ เช่น ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ขณะนี้พบว่าอยู่ในระยะพัฒนาผล เริ่มแก่ใกล้เก็บเกี่ยว ประกอบกับในช่วงที่สภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง จึงขอให้เกษตรกรเฝ้าระวังการระบาดทำลายของเพลี้ย
แป้งทุเรียน
โดยรูปร่างของเพลี้ย
แป้งทุเรียนเพศเมีย (Planococcus minor (Maskell) และ Planococcus lilacinus (Copckerell) มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 3.0 มิลลิเมตร มีสีเหลืองอ่อนหรือชมพู ตัวอ้วนสั้น ผลสีขาวคล้ายผง
แป้งปกคลุมลำตัว วางไข่เป็นกลุ่ม ๆ ละ 100-200 ฟอง เพศเมียตัวหนึ่งสามารถวางไข่ได้ 600-800 ฟอง ภายในเวลา 14 วันไข่จะฟักอยู่ในถุงใต้ท้อง ระยะไข่ประมาณ 6-10 วัน เพศเมียเมื่อวางไข่หมดแล้วจะตายไป เพลี้ย
แป้งเพศเมียลอกคราบ 3 ครั้ง และไม่มีปีก ส่วนเพศผู้ลอกคราบ 4 ครั้ง มีปีกและมีขนาดเล็กกว่าเพศเมีย เพลี้ย
แป้งสามารถขยายพันธุ์ได้ 2-3 รุ่น ใน 1 ปี
ลักษณะการทำลาย เพลี้ย
แป้งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากบริเวณกิ่ง ช่อดอก ผลอ่อน ผลแก่ โดยมีมดดำเป็นตัวคาบพาไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช นอกจากนี้เพลี้ย
แป้งจะขับน้ำหวาน (honey dew) ออกมาเป็นสาเหตุให้ราดำที่มีอยู่ในธรรมชาติเข้าทำลายซ้ำ หากพบเพลี้ย
แป้งเข้าทำลาย
ทุเรียนในระยะผลเล็กจะทำให้ผลแคระแกร็น ไม่เจริญเติบโต แต่ถ้าเป็นผลใหญ่ทำให้คุณภาพผล
ทุเรียนลดลงและไม่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค
กรมส่งเสริมการเกษตรขอแนะนำให้เกษตรกรชาวสวน
ทุเรียนป้องกันกำจัดเพลี้ย
แป้งทุเรียน โดยหมั่นสำรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากพบเพลี้ย
แป้งระบาดเล็กน้อย เช่น บนกิ่ง ให้ตัดส่วนที่ถูกทำลายทิ้งไป หากพบบนผล
ทุเรียนในปริมาณน้อยอาจใช้แปลงปัด ใช้น้ำพ่นให้เพลี้ย
แป้งหลุด หรือใช้น้ำผสมไวท์ออยส์ อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ใช้ผ้าชุบสารคาร์บาริล อัตรา 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พันไว้ตามกิ่งสามารถป้องกันไม่ให้มดคาบเพลี้ย
แป้งไปยังส่วนต่าง ๆ ของ
ทุเรียน หรือใช้สารฆ่าแมลงฉีดพ่นไปยังโคนต้น ได้แก่ เมทิดาไทออน อัตรา 30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเฉพาะต้นที่พบเพลี้ย
แป้งจะช่วยป้องกันมดและลดการเข้าทำลายของเพลี้ย
แป้ง สำหรับการใช้ศัตรูธรรมชาติ เช่น การปล่อยด้วงเต่า หรือแมลงช้างปีกใส จะช่วยกินเพลี้ย
แป้งและช่วยลดการทำลายของเพลี้ย
แป้งได้เช่นกัน หากเกษตรกรท่านใดมีข้อสงสัย ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าที่เกษตรตำบลหรือเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน
![]()
![]()